เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าได้ลงพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสถานีขนส่งจตุจักร(หมอชิต) เพื่อตรวจสอบและกำกับการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะหมวด 2 ที่วิ่งให้บริการเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร ให้เข้าไปใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง คือ สถานีขนส่งจตุจักร(หมอชิต 2) สถานีขนส่งสายใต้(ปิ่นเกล้า) และสถานีขนส่งเอกมัย เพื่อเป็นจุดจอดรับส่งผู้โดยสารแทนการจอดบริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีผลบังคับใช้เป็นวันแรก
นายออมสิน กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนและทดลองการจัดระเบียบเพื่อย้ายจุดจอดรถตู้หมวด 2 ซึ่งมีจำนวนกว่า 4,000คันมาหลายครั้งแล้ว จนเริ่มบังคับใช้จริง โดยพบว่ายังไม่มีปัญหาอะไร ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะทุกรายให้ความร่วมมือนำรถมาจอดรับส่งยังจุดจอดที่ บขส.จัดไว้ให้ 3 จุดเป็นอย่างดี
นายออมสิน กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 25 ต.ค. ตนได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และครม.ได้ทราบถึงผลการจัดระเบียบรถตู้วันแรกด้วย โดยนายกฯได้ฝากความห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องการดูแลไม่ให้ให้การจัดระเบียบของกระทรวงส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งกระทรวงได้รายงานให้นายกทราบว่า ทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมด้านการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนไว้แล้ว โดยได้จัดบริการรถชัตเติ้ลบัสรับส่งฟรีให้แก่ประชาชน เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยไปยัง 3 สถานีที่จอดรถตู้โดยสาร แต่ยอมรับว่ายังมีประชาชนบางส่วนยังมีความสับสนเล็กน้อยเรื่องจุดจอดรับและส่งจากอนุสาวรีย์ชัย มายังคิวรถตู้ ซึ่งได้กำชับให้ทุกหน่วย เร่งประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจเพิ่มเติม
“กระทรวงจะประเมินผลการดำเนินงานแบบวันต่อวัน หากมีจุดไหนมีปัญหาก็จะค่อยๆ ปรับแก้ไขไปจนกว่าจะเข้าที่ โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)จะให้บริการชัตเติ้ลบัสฟรีแก่ประชาชนเรื่อยๆ แบบๆไม่มีกำหนด จนกว่าผู้โดยสารจะคุ้นเคยกับเส้นทางการเดินทางไปขึ้นรถตู้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงได้สั่งให้จัดตั้งวอร์รูมไว้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.)เพื่อทำหน้าที่ติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิดแล้ว”นายออมสิน กล่าว
