ป.ป.ช.หอบหลักฐาน8ลัง ยื่นฟ้อง”ยงยุทธ วิชัยดิษฐ”ต่อศาลอาญาคดีทุจริต คดีที่ดินอัลไพน์

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมพยานหลักฐานเป็นเอกสารประมาณ 8 ลัง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ขณะนั้น และอดีตหัวหน้าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

รายงานข่าวแจ้งว่า คดีนี้ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2555 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติด้วยเสียงข้างมาก (6 ต่อ 3 เสียง) ชี้มูลความผิด กล่าวหานายยงยุทธ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ให้ยกเลิกโฉนดที่ดิน(ที่จดทะเบียนในนามสนามกอล์ฟอัลไพน์) ที่แบ่งแยกออกมาจากโฉนดที่ดินเลขที่ 20 และเลขที่ 1446 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อันเป็นการโอนที่ธรณีสงฆ์โดยมิชอบ หรือเรียกว่ากรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างมากเห็นว่าการกระทำดังกล่าว มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง และมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

โดยวันนี้ศาลพิจารณาคำฟ้องแล้วประทับรับฟ้องคดีเป็น คดีดำที่ อท.38/2559 พร้อมทั้งสอบคำให้การจำเลย โดยจำเลยแถลงให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ก่อนที่ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวโดยตีราคาประกันเป็นเงินสด 2 แสนบาท พร้อมห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล

รายงานข่าวแจ้งว่า คดีนี้เกิดจากกรณีที่ ป.ป.ช.กล่าวหานายเสนาะ เทียนทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน จ.ปทุมธานี สาขาธัญบุรี ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต กรณีจดทะเบียนโอนมรดก และโอนขายที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ละเว้นไม่ดำเนินการเพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว โดยนายเสนาะ สั่งการไม่อนุญาตให้วัดธรรมิการามวรวิหารได้มาซึ่งที่ดินทั้งสองแปลงที่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ทำพินัยกรรมยกที่ดินดังกล่าวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2512 และต่อมาเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2533 ผู้จัดการมรดกได้จดทะเบียนเปลี่ยนผู้จัดการมรดกและขายที่ดินนั้นให้แก่บริษัทอัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด กับบริษัทอัลไพน์กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ในราคา 142,000,000 บาท บริษัททั้งสองได้จดทะเบียนจำนองที่ดินเพื่อเป็นการชำระหนี้ไว้กับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ธนชาติ จำกัด เป็นเงิน 220,000,000 บาท และจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองอีก 70,000,000 บาท ภายหลังบริษัทฯ ได้ไถ่ถอนจำนอง และรังวัดแบ่งขายให้บุคคลอื่น

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ส่วนที่ดินบริเวณสนามกอล์ฟอัลไพน์ เมื่อปี 2541 ได้โอนขายหุ้นให้นางกาญจนาภา หงษ์เหิน จำนวน 10 หุ้น นายชัยวัฒน์ เชียงพฤกษ์ กับนางสาวบุญชู เหรียญประดับ คนละ24,899,987 หุ้น และนายวิชัย ช่างเหล็ก 24,988,986 หุ้น ซึ่งเป็นคนงาน คนขับรถในครอบครัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อมาบุคคลทั้งสามโอนขายหุ้นให้กับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยานายทักษิณ และบุตรสาว2คน ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 มีมติว่าที่ดินดังกล่าวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร ผู้รับพินัยกรรมโดยผลของกฎหมายทันที โดยไม่ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์หรือรับมรดก หรือเข้าครอบครองที่ดินมรดก จึงตกเป็นที่ธรณีสงฆ์ตั้งแต่นางเนื่อมถึงแก่กรรม การจดทะเบียนโอนขายที่ธรณีสงฆ์จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของนายเสนาะ ที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้วัดได้มาซึ่งที่ดินมรดกทั้งสองแปลง จึงเป็นคำสั่งที่มิชอบ นอกจากนี้ยังได้ใช้อำนาจโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจ ให้เจ้าหน้าที่จดทะเบียนโอนเปลี่ยนแปลงผู้จัดการมรดก โอนมรดก และโอนขายที่ดิน จึงมีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 148 แต่ความผิดตามมาตรา 157 ขาดอายุความแล้ว ทางอัยการสูงสุดเห็นว่าพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์ จึงตั้งคณะทำงานร่วม แล้วอัยการสูงสุดมีความเห็นว่าคดีขาดอายุความ ไม่เห็นชอบในการฟ้องคดีต่อศาล คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงฟ้องคดีนายเสนาะ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ศาลได้พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่ได้ตัวจำเลยไปศาลภายในกำหนดอายุความ ส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐคนอื่น ๆ คดีได้ขาดอายุความไปก่อนแล้ว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับนายยงยุทธ ที่เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ให้ยกเลิกโฉนดที่แบ่งแยกออกมาจากโฉนดที่ดินเลขที่ 20 และ 1446 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้แยกเรื่องออกมา และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการไต่สวนชุดเดิมดำเนินการต่อไป จากการไต่สวนพบว่า อธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งลงวันที่ 20 ธันวาคม 2544 ให้ยกเลิกโฉนดที่แบ่งแยกและเพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนมรดก ระหว่างมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย ผู้จัดการมรดก ผู้โอน กับมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย ผู้รับโอน และระหว่างมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย ผู้ขาย กับบริษัทอัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัทอัลไพน์กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ผู้ซื้อ แต่มีผู้มีส่วนได้เสียได้ร้องอุทธรณ์ กรมที่ดินมีคำสั่งยกอุทธรณ์ แล้วจึงส่งคำอุทธรณ์ไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย

รายงานข่าวแจ้งว่า ต่อมานายยงยุทธ เห็นว่าบทบัญญัติมาตรา 84 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เป็นบทบัญญัติที่มีลักษณะเป็นกฎหมายพิเศษ ยกเว้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้นการได้มาของที่ดินวัดจึงต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี เมื่อปรากฏว่ารัฐมนตรีสั่งไม่อนุญาตให้วัดได้มาซึ่งที่ดินมรดกนี้ วัดจึงยังไม่ได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าว อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง จึงสั่งเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ถือปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา(ที่ประชุมใหญ่) เห็นว่าที่ดินนั้นเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร การโอนที่ธรณีสงฆ์ต้องกระทำโดยออกเป็นพระราชบัญญัติ ตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฯ จะจำหน่ายจ่ายโอนให้แก่บุคคลอื่นนอกจากวัดธรรมิการามวรวิหาร ซึ่งพินัยกรรมมิได้ระบุให้เป็นผู้รับพินัยกรรมมิได้

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการป.ป.ช. จึงเห็นว่า มติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2482 บังคับให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับ ทุกหน่วยงาน ต้องปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา การที่นายยงยุทธ มีฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงเป็นการกระทำอันมิชอบ เพราะหากไม่ประสงค์ที่จะปฏิบัติตามหรือไม่เห็นด้วย ก็ชอบที่จะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา หาชอบที่จะยกเลิกคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image