ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ ต.ดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จำนวน 15 ร้าน กล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่าจะไม่รับซ่อม ติดตั้ง ดัดแปลง สภาพรถจักรยานยนต์ที่ผิดต่อกฎหมาย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ตุลาคม นายอดุลย์ นิมิตนิวัฒน์ กำนัน ต.ดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย ด.ต.เพชร คล่องแคล่ว หัวหน้าสายตรวจตำบลดอนกระเบื้อง เจ้าหน้าที่ทหารชุด ชป.ช.พัน 52 ช.1 รอ. และฝ่ายปกครองได้เชิญผู้ประกอบกิจการร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ ต.ดอนกระเบื้อง จำนวน 15 ร้าน มาร่วมพูดคุย ชี้แจงเกี่ยวกับการดัดแปลงสภาพรถ และการสนับสนุนให้ดัดแปลงสภาพรถอย่างผิดกฎหมาย ณ ศูนย์ดำรงธรรม ต.ดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จากนั้นทั้งหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบกิจการได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงและกล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ว่าจะไม่รับซ่อม ติดตั้ง ดัดแปลง สภาพรถจักรยานยนต์ที่ผิดต่อกฎหมาย และที่มีท่อเสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และหากมีการตรวจพบการกระทำผิดข้อตกลงในภายหลัง จะยินยอมให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ นายอดุลย์ กำนันตำบลดอนกระเบื้อง เปิดเผยว่า ในพื้นที่ ต.ดอนกระเบื้อง โดยเฉพาะบริเวณถนนเพชรเกษมสายเก่า สามแยกกระจับ – แยกหนองโพ อ.โพธาราม ระยะทางรวม 9 กิโลเมตร จะเป็นถนนขนาดใหญ่และโล่ง ส่งผลทำให้ในช่วงคืนวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จะมีกลุ่มวัยรุ่นมาแข่งรถ กันเป็นจำนวนมาก สร้างความหวาดกลัวในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น และสร้างความรำคาญจากท่อรถที่มีเสียงดังจนชาวบ้านนอนไม่หลับ ถึงแม้ว่าทางหน่วยงานจะตั้งด่าน วางแผนปิดล้อมจับกุม แต่ก็ยังคงมีการลักลอบแข่งขันกันอยู่เสมอ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงได้วางแผนปิดกั้นการเกิดตั้งแต่ต้นตอ คือ ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ที่จะเป็นผู้จัดหา ตกแต่ง และประกอบท่อเสียงดัง รวมไปถึงดัดแปลงสภาพรถส่วนอื่นๆ ด้วยการเจรจาพูดคุยขอความร่วมมือ พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลง และปฏิญาณตนร่วมกัน แต่หากตรวจพบภายหลังว่าลักลอบกระทำการใดๆ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายฐานเป็นผู้ให้การสนับสนุน โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถึงหากแม้ว่ากลุ่มวัยรุ่นจะสามารถไปแต่งรถที่ร้านอื่นนอกพื้นที่ได้ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้ประชาชนทั่วไปเห็นว่าตำบลดอนกระเบื้องไม่ใช่แหล่งต้นเหตุสร้างความเดือดร้อน และยังเป็นการจุดประกายให้ท้องที่อื่นๆ นำไปใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
