เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่29 ตุลาคมนี้ ที่พระบรมมหาราชวัง ว่า เจ้าหน้าที่ทั้งกทม. ตำรวจ ทหาร ได้มีการประชุมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้เตรียมการทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว เท่าที่ประเมินทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการป้องกันมิจฉาชีพหรือกลุ่มไม่หวังดี เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดคัดกรองทั้งหมด6จุด ในบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง มีการตรวจเข้ม ส่วนบางคนที่เป็นห่วงว่าวันที่29-31 ตุลาคมนี้ ประชาชนจะหลั่งไหลมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอุดยเดชจำนวนมากนั้น เจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือทั้งเรื่องจราจร การอำนวยความสะดวกด้านการแพทย์ และการบริหารจัดการประชาชนในการเดินทางมาด้วย โดยเฉพาะในต่างจังหวัดทั้ง76 จังหวัดจะเฉลี่ยและทยอยกันเข้ามา โดยทางปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรัฐบาลประเมิณน่าในช่วงวันที่29-31 ตุลาคม น่าจะสามารถรองรับรับประชาชนที่เข้ามาได้ประมาณวันละ10,000คน ส่วนยอดรวมประชาชนที่เดินทางทางมาลงนามในช่วงที่ผ่านมาเฉลี่ยวันละประมาณ30,000คน
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนบางกลุ่มมีการโพสต์ภาพข้อความหมิ่นสถานบันฯว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานด้านการข่าวได้มีการเฝ้าระวัง ติดตามอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนผู้ต้องหาหลายรายที่อยู่อาศัยต่างประเทศนั้น รัฐบาลได้ประสานขอตัวมาดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง อะไรที่ผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ ก็ยึดถือกฎหมาย ผิดก็ว่าไปตามผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรัฐบาลได้มีการขอตัวผู้หมิ่นสถานบันเบื้องสูงมาดำเนินคดี แต่ทำไมต่างประเทศไม่ส่งตัวมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ทางรัฐบาลได้มีการประสานไปนานแล้ว อย่างกรณีของนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ก็มีการขอไปแล้วแต่เขาไม่ส่งตัวมา เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้มีข้อตกลงเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตนจะซื้อตั๋วให้ผู้สื่อข่าวไปตามตัวกลับมา จะเอาไหม
