เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม บริเวณประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางเข้าถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศเป็นวันที่ 3 โดยมีเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจก่อนเข้าภายในบริเวณท้องสนามหลวงและจุดตั้งแถวเข้าถวายบังคม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
นายธรรมนูญ ขุนยัง อายุ 57 ปี ประชาชนจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธานชมรมผู้สูงอายุ ม.2 ต.เขาเจียก พัทลุง อ.เมือง จ.พัทลุง กล่าวว่า ในฐานะประธานชมรมผู้สูงอายุได้รับการรบเร้า จากผู้สูงอายุจำนวนมากว่าอยากจะมาสักการะพระบรมศพ ครั้งนี้จึงได้ใช้งบประมาณส่วนตัวพาผู้สูงอายุ 45 คนเดินทางจากจังหวัดพัทลุงมากราบสักการะ ความจริงแล้วกลุ่มผู้สูงอายุชุดนี้จัดมาเพื่อถวายพระพรในวันที่ 5 ธันวาคม ไม่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนเป็นการถวายสักการะพระบรมศพแทน
“พวกเราชาวภาคใต้ มีความผูกพันกับพระองค์ท่านอย่างมาก พระองค์ท่านเสด็จมาเยือนภาคใต้หลายครั้งทั้งที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติแต่ท่านก็ยังเสด็จไปทุกพื้นที่อย่างจังหวัดพัทลุงพระองค์ท่านก็เสด็จถึงแปดครั้ง จนกระทั่งพระองค์ท่านเข้ามาอยู่ในใจของประชาชนในจังหวัดทุกคน ผมเองก็มีความผูกพันกับพระองค์ท่านอย่างมาก พระองค์ท่านเสด็จจังหวัดพัทลุงครั้งแรกเป็นปีที่ผมเกิด เมื่อท่านเสด็จเป็นครั้งที่ 2 ขณะนั้นผมวิ่งได้แล้ว จำได้ว่าวิ่งขายธงสำหรับประชาชนที่รอรับเสด็จ ชีวิตนี้เหมือนผูกติดกับพระองค์ท่าน ในบ้านก็จะมีรูปของท่านอยู่ในจุดสูงสุดตลอดมา จุดมุ่งหมายในครั้งนี้ผมต้องการกราบสักการะส่งพ่อของคนไทยสักครั้งให้ได้” นายธรรมนูญ กล่าว
น.ส.นริสสา สีรักษ์ อายุ 35 ปี ประชาชนจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า รู้สึกรักและเทิดทูนอยากจะมากราบสักการะพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ได้มาร่วมลงนามถวายความอาลัยกับลูกชายอายุ 7 ขวบแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ
“ทุกครั้งที่มาก็จะพบประชาชนจำนวนมากจริงๆก็มีเหนื่อยบ้างลูกชายก็งอแงบ้าง แต่เราจะบอกเขาเสมอว่าคนอื่นก็เหนื่อยเหมือนกัน แล้วในหลวงทรงทำเพื่อคนไทยมาท่านเหนื่อยยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นเราต้องอดทนคิดว่าสิ่งที่เราเหนื่อยถ้าเทียบกับที่พระองค์ท่านทำเพื่อพวกเรา ดูแลคนไทย 70 กว่าล้านคน ความเหนื่อยของเรามันแค่เล็กน้อยนิดเดียวเท่านั้น” น.ส.นริสสา กล่าว
น.ส.นริสสา กล่าวอีกว่า เวลามีปัญหาในการใช้ชีวิตก็จะมองพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง นำคำสอน นำพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน มาไช้ และเวลายิ่งเห็นสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทยเราจะรู้สึกว่าปัญหาของเราแค่เล็กน้อย ทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป หลังจากวันนี้ถ้ามีโอกาสก็จะพาลูกชายมาถวายสักการะพระบรมศพอีก
ด.ช.ณัฐพล เกษมศุข และ เด็กชาย กนกพล แจ้งคต นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนจิตรลดา กล่าวว่า วันนี้ทางโรงเรียนได้พานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 120 คน พร้อมครูอีก 26 คน มาทำหน้าที่จิตอาสาเก็บขยะ แจกยาดม พิมเสน พัด ลูกอมให้กับประชาชนที่เข้าถวายสักการะ ซึ่งของที่นำมาแจกจ่ายทั้งหมด เป็นของที่นักเรียนทั้งโรงเรียนช่วยกันทำมาเป็นเวลา 4 วัน
“รู้สึกภูมิใจและเต็มใจที่ได้มาร่วมทำอะไรให้กับผู้อื่นเหมือนที่ในหลวงทำให้กับประชาชนทุกคนวันนี้เดินแจกตั้งแต่เช้าแต่เพื่อนๆ ทุกคนไม่เหนื่อยครับคิดว่าการที่เราเอาของมาแจกน่าจะช่วยให้ประชาชนที่เข้าแถวรอมีกำลังใจมากขึ้นถ้ามีโอกาสผมอยากจะมาร่วมเป็นจิตอาสาอีก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับบรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวงเป็นไปอย่างสงบ มีตัวเดทนจากหน่วยงานต่างๆ ตั้งจุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม บริการตัดผมฟรี บริการรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ บริการสำหรับประชาชนที่มาร่วมสักการะพระบรมศพ นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันคัดแยกขยะ 3 ประเภท คือ ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป และขยะเศษอาหาร ตามจุดต่างๆ โดยมีอาสามัครจำนวนมากช่วยเก็บขยะ และแยกขยะรอบบริเวณ
