| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลัง ศธ.ให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ปรับปรุงการออกข้อสอบทั้งระบบ ภายหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และการทดสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ยากมาก โดยจะปรับทั้งระบบ ตั้งแต่การออกข้อสอบ หลักสูตร การจัดการเรียนการสอน การออกข้อสอบ และการวัดประเมินผล ว่า เรื่องนี้ สทศ.ออกมายอมรับแล้วว่าข้อสอบยากจริง จึงขอให้ สทศ.กลับไปดูให้ชัดเจนว่าถ้าข้อสอบยากแล้ว การที่เด็กสอบได้ 20-30 คะแนน ถือว่าสอบผ่านหรือไม่ รวมถึง ต้องย้อนกลับมาดูเรื่องการวัดประเมินผลทั้งภายนอก และภายในอย่างจริงจัง ที่ผ่านมา ศธ.ยังประสานกับ สทศ.ค่อนข้างน้อย จากนี้คงต้องคุยกันมากขึ้น และต้องรื้อระบบการประเมินใหม่ ไม่เช่นนั้นจะทำงานการปฎิรูปการศึกษาแบบหลงทาง
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนแนวคิดที่ให้เปิดสเป็กข้อสอบ ว่าจะสอบเรื่องอะไร แบบไหน อย่างไร พร้อมบอกตัวอย่างข้อสอบนั้น คงไม่ใช่การไปสปอยเด็ก แต่ต้องคิดทั้ง 2 ด้าน ระหว่างครู และผู้เรียนด้วย ซึ่งหลักการออกข้อสอบต้องมีความยากง่ายผสมผสานกัน โดยไม่ต้องกังวลว่าเป็นการเปิดช่องให้ติวเตอร์มารู้ข้อมูล เพราะเราเปิดกรอบข้อสอบอย่างกว้าง และเฉพาะในส่วนที่เหมาะสม ไม่ใช่บอกข้อสอบ จากนี้การออกข้อสอบ สทศ.จะต้องคุยกับ ศธ.ก่อน ไม่ใช่ดำเนินการโดยไม่มีการวางแผน เช่นเดียวกับสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ซึ่งที่ผ่านมาไปจัดเกณฑ์ประเมินสถานศึกษาภายนอกเอง สุดท้ายไม่ได้รับการยอมรับ แต่เมื่อคุยกับ ศธ.การประเมินต่างๆ ก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
“ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักเรียนว่าให้เด็กสอบมากเกินไป ทั้งโอเน็ต และวิชาสามัญ 9 วิชา รวมถึง การสอบอื่นๆ นั้น ขณะนี้ผมกำลังดูทั้งหมด รวมถึง จะต้องปรับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วย ที่จะต้องสอดรับกับการทดสอบต่างๆ ไม่เป็นภาระกับเด็กมากเกินไป เปิดโอกาสให้เด็กยากจนได้เข้าถึงการศึกษา ต้องไม่ปิดกั้นศักยภาพของเด็ก แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะยกเลิกการสอบอะไร เพราะคงไม่ใช่เรื่องง่าย” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว
