เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีฝนตกหนักลงมาต่อเนื่องในพื้นที่ จ.เพชรบุรี นานกว่า 3 วัน ทำให้น้ำในเขื่อนแม่ประจันต์ เขื่อนห้วยผาก มีปริมาณมากเกินกว่าจะกักเก็บ ทำให้ต้องปล่อยน้ำลงคลองระบายน้ำ โดยปริมาณน้ำดังกล่าวได้มารวมที่เขื่อนเพชรเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ ทำให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) ต้องเปิดระบายน้ำจำนวนมากกว่า 197 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรีและทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เบื้องต้นพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองเพชรบุรี ตลิ่งริมแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณ ต.คลองกระแชง และ ต.ท่าราบ ได้พังทลาย ทำให้น้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมถนนหลายสาย อาทิ ถนนราชดำเนิน ถนนบริพัตร ถนนบันไดอิฐ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่มีปริมาณรถสัญจรต่อวันเป็นจำนวนมาก มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30-40 ซม. บางจุดน้ำได้ทะลักเข้าไปภายในบ้านของประชาชนและร้านค้าตลอดทั้งสองฝั่งของถนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ในพื้นที่อำเภอเมือง 4 ตำบล คือ ต.บ้านกุ่ม ต.บ้านหม้อ ต.หนองโสน ต.ต้นมะม่วง มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวม 1,880 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 15 จังหวัดเพชรบุรี ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือนำกระสอบทรายมาทำเป็นแนวกั้นน้ำ เพื่อบรรเทาความรุนแรงของน้ำที่ไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนและสถานที่ราชการต่างๆ ขณะเดียวกันโรงเรียนเด็กเล็กในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีจำนวนหลายแห่งได้ประกาศหยุดเรียน โดยเฉพาะตลิ่งริมแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณบ้านใหม่บน หมู่ 1 ต.บางครก อ.บ้านแหลม ตลิ่งได้พังทลายทำให้น้ำไหลทะลักเข้าพื้นที่อำเภอบ้านแหลม 2 ใน ต.บางครกและ ต.ท่าแร้ง บ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน 880 หลังคาเรือน และมีน้ำไหลเข้าท่วมที่นาจำนวนมาก
นายสันต์ จรเจริญ ผอ.ชลประทานเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะมีน้ำทะเลหนุนทำให้สถานการณ์น้ำท่วมหนักกว่าเดิม ทางชลประทานเพชรบุรีได้นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อเร่งระบายน้ำแล้วจำนวน 9 เครื่อง และจะทยอยติดตั้งเพิ่มตามจุดที่เหมาะสมอีก 10 เครื่อง เพื่อลดความเดือดร้อน ขณะเดียวกันกรมชลประทานได้นำเครื่องผลักดันน้ำขนาดใหญ่จำนวน 6 เครื่องกระจายติดตั้งที่บริเวณปากแม่น้ำเพชรบุรี เพื่อดันน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด
พ.ต.ท.ม.ล.กิตติบดี ประวิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมตลิ่งผนังกั้นน้ำเพชรบุรีที่พังทลายเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกจากแม่น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชน เมื่อสร้างแนวตลิ่งที่สมบูรณ์ป้องกันน้ำไม่ให้ไหลออกไปแล้วก็จะเร่งดำเนินการสูบน้ำที่ขังอยู่ในบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตรกลับลงแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งจะเป็นการแก้ไขที่สัมฤทธิผล ขณะเดียวกันได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล อบต.ต่างๆ นำกระสอบทรายแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อป้องกันน้ำบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
