นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ด้านสิ่งแวดล้อม) กล่าวว่า สำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพได้ดำเนินการตรวจสอบสภาพของต้นมะขามรอบท้องสนามหลวง ซึ่งมีอยู่จำนวน 786 ต้น พบว่า 200 กว่าต้นอยู่ในสภาพทรุดโทรม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศษอาหารและน้ำดื่มที่ประชาชนนำมาเททิ้ง รวมถึงน้ำที่ใช้ชำระล้างหลังการประกอบอาหารเพื่อแจกจ่ายประชาชนโดยรอบท้องสนามหลวง
นายจักกพันธุ์กล่าวว่า ต้นมะขามที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดอยู่ในพื้นที่บริเวณทิศเหนือฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ผ่านมาสำนักสิ่งแวดล้อมฯได้ทำการฟื้นฟูต้นมะขามไปแล้ว 50 ต้น โดยใช้กระสอบทรายล้อมเพื่อทำเป็นเซฟโซนและใช้ท่อพีวีซียาวประมาณ 50 เซนติเมตรเจาะรูโดยรอบฝังลงไปในเซฟโซน 4 มุม เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทและเพื่อให้น้ำที่ตกค้างอยู่โดยรอบต้นมะขามสามารถไหลมาอยู่ในท่อพีวีซี เจ้าหน้าที่จะได้สามารถดูดน้ำส่วนเกินไปทิ้งได้
นายจักกพันธุ์กล่าวว่า จากนี้ไปสำนักสิ่งแวดล้อมฯจะได้ทำการฟื้นฟูต้นมะขามที่ยังเหลืออยู่ให้กลับมามีสภาพเดิมโดยเร็ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และจะทำการสำรวจสภาพต้นมะขามที่เหลืออยู่ทั้งหมด หากพบว่าต้นใดมีปัญหาจะได้ทำการฟื้นฟูต่อไป
“อยากขอความร่วมมือประชาชนที่เดินทางมาร่วมสักการะพระบรมศพอย่านำเศษอาหารหรือน้ำมาเททิ้งโดยรอบต้นมะขาม เพราะต้นมะขามที่ท้องสนามหลวงถือว่ามีความสำคัญและมีประวัติศาสตร์คู่สนามหลวงมายาวนาน เพราะปลูกไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และมีอายุมากกว่า 100 ปี จึงอยากให้ประชาชนทุกคนช่วยกันรักษาต้นมะขามให้อยู่คู่กับสนามหลวงตลอดไป” นายจักกพันธุ์กล่าว
