09.00 INDEX “มิตร” และ “ศัตรู” ในวิกฤตข้าว มิใช่กลุ่มการเมือง มิใช่กลุ่มโรงสี

สภาพที่รัฐบาลกำลังประสบอยู่จากวิกฤตอันเนื่องแต่ “ราคาข้าว” บ่ง ชี้ “นัยยะ” ในทางการเมืองอย่างค่อนข้างเด่นชัด

หากเป็นรัฐบาล “ปกติ” ก็ต้องเรียกว่า “ขาลง”

แต่นี่เป็นรัฐบาลซึ่งมี “อำนาจพิเศษ” จึงไม่มีใครกล้าสรุปและฟันธงไปในแนวทางเช่นนั้น

ปัจจัยอะไรทำให้มองเห็นได้อย่างนั้น

Advertisement

จะขอตัดเอาปัจจัยอันเนื่องแต่ “ราคาข้าว” ที่ส่งสัญญาณออกมาเป็นลำดับออกไป

เพราะยังมีผลผลิต “ข้าว” ระลอกใหม่กำลังทยอยมา

เป็นผลผลิตข้าว “นาปี” ซึ่งมิได้มีแต่ข้าวหอมมะลิ หากแต่ยังมีข้าวเจ้า ข้าวขาว ซึ่งมีปริมาณมากกว่าข้าวหอมมะลิหลายเท่าตัว

หากแต่ “สัมผัส” ได้จาก 2 ปฏิกิริยาสำคัญ

1 เป็นปฏิกิริยาที่มาจากชาวนา ทั้งในทางส่วนตัว ทั้งในทางเป็นองค์กรซึ่งมีฐานมวลชนรองรับ

และ 1 เป็นปฏิกิริยาที่มาจาก “สมาคมโรงสีข้าว”

แม้จะรู้อยู่เป็นอย่างดีว่า รัฐบาลมี “อำนาจพิเศษ” ภายใต้ฉายาแห่ง “คสช.” อยู่อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง

แต่ก็ “กล้า” ออกมา

การออกมาของเหล่า “ชาวนา” เป็นเรื่องปกติ เพราะมีฐานมาจากความเดือดร้อนที่ประสบ

จำเป็นต้องออกมา “โวย” จำเป็นต้อง “หาทาง” ออก

การออกมาของ “สมาคมโรงสีข้าวไทย” มากด้วยความละเอียดอ่อน และแทบเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน

โดยเฉพาะห้วงหลัง “รัฐประหาร”

“ยืนยันว่าโรงสีไม่ได้กดราคาซื้อ หรือร่วมมือกับใครเพื่อหวัง ผลราคาข้าวตกต่ำ”

เหตุผลก็คือ “รับซื้อตามกลไกตลาด”

“กลไกตลาด” ต่างหากคือ สภาพที่อยู่ “เบื้องหลัง” การซื้อขายข้าวเปลือกหอมมะลิ

“ตลาด” ต่างหากที่ผลัก “โรงสี” ออกมา

คล้ายกับว่า สภาพที่รัฐบาลกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ประกอบด้วยกลุ่มการเมือง และผู้ไม่ปรารถนาดีในทางการเมือง

สมคบคิด ร่วมกับ “พ่อค้า”

แต่การออกมาแสดง “ปฏิกิริยา” ไม่ว่าจะโดย 1 ชาวนา และ 1 โดยกลุ่มโรงสี

แสดงว่ายังมี “เงื่อนปม” อื่น ทะมื่นอยู่ “เบื้องหลัง”

สิ่งที่รัฐบาลเผชิญอยู่จึงเป็นยักษ์ใหญ่ที่รับรู้กันมาอย่างยาวนานในกระบวนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ

นั่นก็คือ กำแพงแห่ง “ตลาด”

ความเป็นจริงก็คือ โรงสีรับซื้อตามออเดอร์ของ “ผู้ส่งออก” และผู้ส่งออกกำหนดราคาตาม “ตลาดโลก”

“ตลาด” ต่างหากคือสิ่งที่รัฐบาลกำลัง “ต่อกร”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image