ยิ่งลักษณ์น้ำตาคลอ โต้รู้บุญคุณคนจึงลงไปช่วย ลั่น ‘ถ้าเป็น รบ.จะช่วยซื้อข้าวทั้งประเทศ’ (คลิป)

“ยิ่งลักษณ์” ขึ้นศาล สืบพยานฝ่ายจำเลยนัดที่ 6 สวนกลับน้ำตาคลอ บอกรู้บุญคุณ ปชช.จึงลงไปช่วย แจง “บิ๊กป้อม” ถ้าตนเป็น รบ.ก็จะซื้อข้าวชาวนาทั้งประเทศ อัดกลับ รบ.ที่เป็นกลางควรมองว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ใครก็ตามช่วยชาวนา

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมทีมทนาย เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดที่ 6 ในคดีโครงการรับจำนำข้าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมีบรรดาอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำ นปช. อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นายวรวัฒน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรค ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท. ร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาถึงพร้อมกับทักทายมวลชนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่มวลชนเดินทางมาให้กำลังใจอย่างเนืองแน่นมากเป็นพิเศษ โดยในวันนี้มีกลุ่มชาวนาจาก จ.อุบลราชธานีบางส่วนเดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งนำช่อรวงข้าวมามอบให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย

โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการช่วยเหลือชาวนาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ไม่ขอลงรายละเอียด แต่โดยหลักก็ไม่ต่างจากโครงการรับจำนำข้าว ที่สำคัญ รัฐบาลมุ่งช่วยเหลือชาวนาโดยไม่มุ่งหวังกำไรขาดทุน ส่วนที่ลงพื้นที่เยี่ยมชาวนาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ยืนยันชาวนามีความลำบาก นอกจากปัญหาราคาข้าวตกต่ำแล้วยังมีหนี้สินมาก และต้องขายข้าวในราคาที่ขาดทุนซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยเหลือชาวนาในครั้งนี้ด้วย ส่วนที่รัฐบาลมองว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้มีความดราม่าและมุ่งหวังทางการเมืองนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้าว่า “ดิฉันเองมาจากประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน รู้ซึ้งถึงบุญคุณของประชาชน วันนี้ชาวนา ประชาชนมีความเดือดร้อน แม้วันนี้ดิฉันไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว แต่ดิฉันทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เห็นใจประชาชนและชาวนาที่ลำบาก เดือดร้อนก็ลงไป ไม่ได้มองมุ่งหวังทางการเมือง ถามว่ามามองว่าเป็นภาพดราม่าหรือไม่นั้น ขอเรียนว่า วันนี้ในความรู้สึกของดิฉันก็รู้สึกตื้นตันใจกับน้ำใจของชาวนาที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าความทุกข์ของชาวนาและประชาชนนั้นทุกข์มาก ไม่มีแม้กระทั่งข้าวสารจะกรอกหม้อ ไม่มีแม้เงินที่จะใช้จ่ายประจำวัน แต่ก็ยังมาให้กำลังใจดิฉัน ตรงนี้ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งและขอกราบขอบพระคุณพี่น้องชาวนาทุกคนและประชาชนที่ให้กำลังใจ ถ้าถามว่าใครมาเป็นแบบดิฉันก็ย่อมรู้ว่าในสถานการณ์นี้มันก็หนัก แต่ยังไงก็ตามทุกข์ของดิฉันก็ไม่เท่าทุกข์ของชาวนาที่ประสบ อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยเหลือชาวนา”

 

Advertisement

เมื่อถามว่า ชาวนามีปัญหาเรื่องของภาระหนี้สิน ตรงนี้จะมีข้อแนะนำฝากไปถึงรัฐบาลอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องให้รัฐบาลมองภาพรวมทั้งระบบ แล้วมองข้างหน้าด้วย เพราะในเร็ววันนี้ก็จะมีข้าวที่กำลังจะเกี่ยวเข้ามาอีก ก็คงต้องมองทั้งระบบ ตนคงไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงในการแนะนำได้ เพราะเชื่อว่ารัฐบาลก็ต้องมีทีมเศรษฐกิจที่เป็นมืออาชีพในการที่จะคิดแก้ปัญหาให้กับชาวนา วันนี้ตนไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว แต่ตนอยากให้รัฐบาลมองว่า งานตรงนี้เป็นงานที่รัฐบาลจะต้องเข้ามาแก้ไขให้กับประชาชนและชาวนา

เมื่อถามว่า ผู้ใหญ่บางท่านในรัฐบาลออกมาบอกว่าอย่าซื้อที่เดียว พร้อมท้าให้ซื้อข้าวทั้งประเทศไปเลย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยสีหน้าและแววตาดุดันว่า “ถ้าดิฉันเป็นรัฐบาล ดิฉันจะทำแบบนั้นค่ะ แต่วันนี้ดิฉันเป็นประชาชนคนหนึ่ง ดิฉันทำเท่าที่กำลังดิฉันมีค่ะ เพราะดิฉันมีภาระที่จะต้องใช้จ่ายในครอบครัว และดิฉันต้องต่อสู้ในชั้นศาลอีก แต่ดิฉันคิดว่า น้ำใจต่างหากที่ชาวนาอยากได้รับ อยากเห็นทุกคนลงมาทุ่มเทในการใช้ทุกกำลังความสามารถในการช่วยเหลือชาวนา จะได้มากได้น้อยคนที่เป็นรัฐบาลที่เป็นกลางก็ควรจะมองว่า ใครที่ช่วยเหลือก็น่าจะยินดี และเปิดรับกับทุกคน”

Advertisement

8

9

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image