เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่เปิดให้เข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง มีสายฝนโปรยปรายมาตลอด กระทั่งเวลา 16.30 น. ที่ฝนหยุด และใกล้เวลาเลิกงาน ยิ่งมีพสกนิกรมาที่ท้องสนามหลวง เพื่อรอต่อแถวเข้าสักการะอย่างไม่ขาดสาย
นางกนกวรรณ พิริยกิจกำจร อายุ 34 ปี นักธุรกิจไทยในเมืองเปรัค ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า เมืองที่ตนอยู่ไม่ค่อยมีคนไทย ส่วนใหญ่เป็นคนจีนและมุสลิม น้อยคนมากที่จะเข้าใจในความรู้สึก ตนพยายามหาเวลาและวันหยุดงานเพื่อกลับมายังเมืองไทยและเข้าถวายสักการะพระบรมศพ จากนั้นได้ซื้อตั๋วและบินกลับมาเมื่อสองวันก่อน
“แม้จะอยู่ในต่างประเทศแต่ยังคงน้อมนำแนวทางพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ นั่นคือ ความพอเพียง สำหรับตนหมายถึง ความรู้จักพอดีและพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี นอกจากนี้สิ่งที่ตนได้เห็นได้ผ่านจอทีวี คือ คนไทยรักและเชิดชูในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก จนทำให้ประชาชนในมาเลเซียต่างอึ้งและตกใจว่าทำไมคนไทยถึงมีน้ำใจและรักกันได้ถึงขนาดนี้ซึ่งต่างจากประเทศที่ตนอาศัยอยู่ อย่างไรก็ตาม วันนี้อยากฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่คอยให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ตั้งแต่เดินเข้ามาบริเวณสนามหลวงจนออกจากประตูของพระบรมมหาวัง” นางกนกวรรณกล่าว
ด้านนักเรียนลูกเสือ-เนตรนารีจิตอาสา จากโรงเรียนสายมิตรวิทยาและโรงเรียนกบินทร์จริยา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จำนวน 100 คน ที่กำลังยืนจัดคิวเข็นรถวีลแชร์ โดยมีคุณครููเป็นพี่เลี้ยงนำเด็ก ๆ และช่วยกันจัดแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
นางสุพัตรา บุตรเนียน ผู้อำนวยการโรงเรียนสายมิตรศึกษา กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจในเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้อาสามาเป็นจิตอาสาในครั้งนี้ ซึ่งได้มีนักเรียนจำนวนมากออยากเดินทางมา แต่โควต้าก็ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องคัดนักเรียนที่มีสุขภาพแข็งแรงมาร่วมเป็นจิตอาสาก่อน
“วันนี้แม้เป็นวันจันทร์ ทำให้นักเรียนต้องขาดเรียนทั้งวัน ทางโรงเรียนก็ต้องทำหน้าที่ในการสอนเพิ่มเติม ซึ่งวันนี้นับเป็นวันดีที่จะให้เด็กๆ ทุกคนได้ร่วมเป็นจิตอาสาและบันทึกลงสมุดความดีของตนเอง การช่วยเหลือคนอื่นจึงมีความสำคัญมากกว่า เพราะจะสั่งสมให้เขาได้เป็นคนดีในอนาคต” นางสุพัตรากล่าว
ขณะที่ นางสาวสุชานาถ สิมมา อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสายมิตรศึกษา กล่าวว่า หลังจากทราบว่าโรงเรียนเปิดรับสมัครจิตอาสา ตนก็ได้เข้ามาสมัครทันที เพราะเห็นว่ามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและสามารถช่วยคนอื่นได้
“รู้สึกดีใจมาก เพราะไม่เคยได้ร่วมกิจกรรมแบบนี้ ในวันนี้หนูได้ช่วยคุณตาและคุณยายเข็นรถวีลแชร์ เก็บขยะและมอบน้ำดื่มให้ประชาชนบริเวณสนามหลวงและภายในพระบรมมหาราชวัง ทำให้รู้ว่าความดีสามารถทำได้ง่ายนิดเดียว ทั้งนี้ หนูอยากทำเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 แม้จะไม่เคยเห็นพระองค์สักครั้งแต่หนูก็รับรู้จากคุณครูว่าพระองค์ทรงงานหนัก เพื่อคนไทยเป็นอย่างมาก และอยากบอกเพื่อนๆ นักเรียนว่า หากมีเวลาอยากให้มาร่วมเป็นจิตอาสา เพราะนอกจากจะทำให้จิตใจของหนูดีขึ้นแล้ว ยังเป็นประสบการณ์ในชีวิตของหนูด้วย” น.ส.สุชานาถกล่าว
