วันที่ 8 พฤศจิกายน นายพิศาล ปั่นวงษ์ก๋อ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ เขต อ.พิชัย กล่าวว่า กำแพงเมืองพิชัย อยู่ในพื้นที่บ้านหน้าพระธาตุ หมู่ 2 ต.ในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ อายุกำแพงเมืองพิชัย เบื้องต้นในพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ น่าจะถูกสร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.2033 หรือเมื่อ 526 ปีก่อน แต่ก่อนหน้านั้น มองด้วยตาเปล่าเป็นเนินดินลาดยาว มีคูน้ำล้อมรอบ แต่สภาพเนินดินในขณะนี้ไม่มีความต่อเนื่องสัดเท่าไหร่นัก เนื่องจากหลายช่วงถูกขุดจนกำแพงทะลุเพื่อให้รถยนต์ รถไถนาผ่าน ใครที่พบเห็นก็คงเกิดความเสียดายที่ถูกปล่อยให้สภาพเป็นไปแบบนี้ ลักษณะกำแพงเป็นอิฐกับดินคล้ายกำแพงค่ายระเนียด เสาระเนียดที่เรียงรายล้อมเนินดินที่มีคูน้ำขวางด้านหน้าอีกชั้นในอดีตนั้น จะเสี้ยมปลายแหลมปักเรียงรายกัน บริเวณด้านนอกกำแพงที่ปรากฏมีร่องรอยเนินดินคล้ายป้อมประตูเมืองที่พบในสุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร
นายพิศาล กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลพบว่าปี 2553 กรมศิลปากรเคยมาขุดหลุดจำนวน 8 จุด แต่กลับไม่ยอมกลบดินที่ขุดออกให้เหมือนเดิม พร้อมกำชับว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไม่ให้เข้าดำเนินการใด ๆกับกำแพงดังกล่าว ขณะเดียวกันกรมศิลปากรเองก็ไม่มาดำเนินการใด ๆเช่นเดียวกัน โดยอ้างว่า มีงานหลายอย่างต้องทำ และการขุดครั้งนั้นทางกรมศิลปากรก็ไม่พบโบราณวัตถุแต่อย่างใด จึงปล่อยให้กำแพงเมืองพิชัย หรือสมบัติแผ่นดินแห่งเมืองหน้าด่านมีสภาพทรุดโทรมมาก อปท.พยายามจะเข้าดูแลแต่กรมศิลป์ก็อ้างกฎหมายและปล่อยให้ถูกลอบทำลาย และทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา
“นอกจากนี้เนินดินที่เรียกกันว่า คูปราสาทซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีการลักลอบขุดหาของเก่าอยู่ การขุดค้นพบภาชนะดินเผาบริเวณนี้ ส่วนหนึ่งมาจากแหล่งเตาเกาะน้อย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย และแหล่งเตาตาปะขาวหาย จ.พิษณุโลก เมื่อไม่พบวัตถุโบราณอะไรก็ควรเข้ามาดูแลไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้ถูกทำลายไปมากกว่านี้ เพราะปัจจุบันพื้นที่บริเวณแนวกำแพง มีการบุกรุกทำเกษตรกรรม และเจาะทำลายกำแพงโบราณทิ้งเพื่อนำรถเกี่ยวข้าวเข้าไปทำการเกษตรกรรม ในหลาย ๆจุด หรือจะปล่อยให้สมบัติชาติที่สำคัญแห่งนี้ให้พังทลายลงไป” นายพิศาล กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
