เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม สวทช. ภาคเหนือ ในการพัฒนากระเจี๊ยบและข้าวกล้องงอกมายกระดับด้วยการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยงานวิจัย โดย นางปิยะฉัตร ใคร้วานิช เบอร์ทัน ผู้อำนวยการ สวทช.ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ITAP สวทช.ภาคเหนือ ได้ให้การสนับสนุนห้างหุ้นส่วนจำกัด ลูกจงรัก โดยประสานทีมผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม พิษณุโลก เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ด้วยสมุนไพรท้องถิ่นและสารต้านอนุมูลอิสระจากข้าวกล้องงอก เป็นผลิตภัณฑ์ไอศกรีมนวัตกรรมใหม่
“ ในการพัฒนาสูตรไอศกรีมข้าวกล้องงอกเสริมต้านสารอนุมูลอิสระจากพืชสมุนไพร คือได้สูตรการผลิต ผลิตภัณฑ์ไอศกรีมใหม่ที่ได้รับการทดสอบและตรวจสอบคุณค่าทางอาหารจำนวนมากกว่า 7 สูตรเช่น 1.ข้าวกล้องงอก 2.แตงไทย 3.ฟักทอง 4.อัญชัน 5.แครอท 6.กล้วยตาก 7.กระเจี๊ยบ 8.งาดำ และนมแพะ เป็นต้น ทั้งนี้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค มียอดขายเพิ่มขึ้นสามารถขยายไปสู่กลุ่มคนทำงานที่นิยมการบริโภคผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้มากขึ้น รวมถึงได้แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิต ทดลองในองค์กร” นางปิยะฉัตร กล่าว
นางจงรัก ธนูพันธ์ชัย เจ้าของร้านโรสเซ่ล ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลูกจงรัก กล่าวว่า ปรึกษากับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม พิษณุโลก ทางมหาวิทยาลัยจึงได้แนะนำให้เข้าโครงการกับ ITAP สวทช. จึงได้วิธีที่จะเก็บดอกกระเจี๊ยบและเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ได้นาน ต่อมาตนอยากทำไอศกรีมไขมันต่ำจึงปรึกษากับทางมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม พิษณุโลกและ ITAP สวทช. ภาคเหนือช่วยคิด จึงได้ไอศกรีมกระเจี๊ยบโยเกิร์ตขึ้นมาอีกเป็นอีกผลิตภัณฑ์แบบใหม่และล่าสุดผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดและดีต่อสุขภาพคือไอศกรีมข้าวกล้องงอก ภายในร้านยังมีเมนูหลากหลาย เช่น ไอศกรีมข้าวกล้องงอก ไอศกรีมโยเกิร์ตกระเจี๊ยบ ไอศกรีมโยเกิร์ตอัญชัญ ไอศกรีมฟักทอง ไอศกรีมแตงไทย เมนูก็จะเวียนๆกันไปตามความต้องการของตลาด ทั้งนี้วัสถุดิบทั้งหมดทางร้านเป็นผู้ปลูกเองโดยทำเป็นเกษตรอินทรีตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าอยากทานไอศกรีมไขมันต่ำและมีประโยชน์มากมายสามารถหาทานได้แค่ที่ร้านโรสเซ่ล จ.พิษณุโลกและในเซ็นทรัลพิษณุโลกเท่านั้น
