สหรัฐเตือนพลเมือง เลี่ยงเดินทางไปแขวงไซสมบูนของลาว หลังเกิดเหตุรุนแรงหลายครั้ง

ภาพจากเฟซบุ๊ก U.S. Embassy Vientiane

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ สหรัฐอเมริกาออกประกาศเตือนชาวอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังแขวงไซสมบูนทางภาคกลางของลาว ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย หลังเกิดเหตุวางระเบิดและโจมตีด้วยปืนอย่างรุนแรงหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยล่าสุดเพิ่งเกิดเหตุซุ่มโจมตีข้างถนนเมื่อเดือนที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไป 3 ราย

ประกาศเตือนของสถานทูตสหรัฐในกรุงเวียงจันทน์ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตามหลังการก่อเหตุยิงโจมตีหลายครั้งในช่วงปลายปีที่แล้ว

“สถานทูตสหรัฐในกรุงเวียงจันทน์ได้สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ของตนไม่ให้เดินทางไปยังแขวงไซสมบูน และเรียกร้องให้พลเมืองสหรัฐปฏิบัติตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยแบบเดียวกัน” ประกาศเตือนการเดินทางของสถานทูตระบุ

เมื่อเดือนที่แล้ว สื่อของทางการจีนรายงานไว้ว่า มีชาวจีนเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 1 คน จากการโจมตีที่คาดว่าจะเป็นการวางระเบิดในแขวงดังกล่าว โดยไม่มีการระบุคาดเดาถึงแรงจูงใจ หนึ่งในผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นพนักงานของบริษัทเหมืองแร่ในมณฑลยูนนานของจีนที่มีชายแดนติดกับลาว

Advertisement

ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนลงทุนเป็นจำนวนมากในลาว ซึ่งเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์เหมือนกัน และกลายเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในลาวเมื่อปี 2557 โดยได้ผลประโยชน์เป็นทรัพยากรธรรมชาติทั้งน้ำและป่าไม้

นอกจากนี้ ประกาศเตือนการเดินทางของสถานทูตสหรัฐระบุเตือนนักท่องเที่ยวด้วยว่า ยังคงมีการพบซากวัตถุระเบิดตกค้างในพื้นที่ห่างไกลในชนบททั่วประเทศลาว ซึ่งเป็นวัตถุระเบิดที่เครื่องบินรบของสหรัฐนำมาทิ้งไว้มากกว่า 2 ล้านตันทั่วประเทศลาวในระหว่างช่วงสงครามเวียดนาม เป็นความพยายามเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงของกองทัพเวียดนามเหนือ โดยมีวัตถุระเบิดที่ไม่ทำงานราว 30 เปอร์เซ็นต์ และมีผู้เสียชีวิตจากซากวัตถุระเบิดตกค้างเหล่านี้ราว 50,000 รายแล้วนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเป็นต้นมา ซึ่งนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประกาศไว้ในการเดินทางเยือนลาวเมื่อเดือนที่แล้วว่า สหรัฐกำลังพิจารณาเพิ่มงบประมาณสนับสนุนลาวในเรื่องนี้จากเดิม 15 ล้านดอลลาร์ ให้มากขึ้นอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image