เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ นิรามัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ สว.กก.1บก.ป. พ.ต.ต.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ สว.กก.1 บก.ป.ร.ต.อ.เอกรณการ นาคนิคม รอง.สว.กก.1บก.ป. ร่วมแถลงจับกุมนายปฏิภาณ มั่งคั่ง อายุ22 ปี บ้านเลขที่105 ซอยพร้อมพรรค แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่จ.643/2559 ลงวันที่26 กันยายน
ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือผ่านสิ่งเช่นนั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อพ้นการจับกุม พร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 สีแดง-ขาวทะเบียน องน 390 กทม. เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ ปรากฏอักษร “Massive” 1 ตัว กางเกงขาสามส่วนสีเทาลาย 1ตัว และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค สีขาว 1เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ภายในซอยบ้านของนายปฏิภาณเอง เมื่อเวลา 01.00น.วันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
พ.ต.ต.ก่อเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ผู้เสียหายเป็นเจ้าของรถเบนซ์ สีดำ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประเวศว่าถูกคนร้ายใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ ก่อนเอาทรัพย์สินไป จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบใบหน้าผู้ต้องหาชัดเจน กระทั่งศาลออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด ต่อมาสามารถสืบสวนจนทราบว่าภาพชายตามหมายจับ คือนายปฏิภาณ หลบหนีไปพักอยู่ที่บ้านเลขที่105 ซอยพร้อมพรรค แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา ชุดจับกุมจึงเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบนายปฏิภาณ จึงเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของผู้เสียหายที่ขโมยไป
พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า สอบสวนนายปฏิภาณ รับสารภาพว่าได้ตระเวนไปตามซอยเปลี่ยว ที่มักจะมีรถหรูจอดทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานกว่า 5-6 ชั่วโมงในเวลากลางคืน กับเพื่อนอีก2 คน ตั้งเป็นแก๊งหม่องบ้านดอน ออกก่อเหตุ โดยใช้ไฟฉายส่องดูทรัพย์สินภายในรถ ก่อนใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ให้แตก วิธีการโจรกรรมดังกล่าวเรียนรู้มาจากแก๊งแปดเซียน เคยก่อเหตุย่านหัวหมาก และพบเจอกันในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อครั้งที่นายปฏิภาณต้องคดีทุบรถเพื่อขโมยทรัพย์สิน เมื่อพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ออกมาก่อเหตุใช้ไขควงยาวงัดบริเวณกระจกหลังคนขับรถยนต์หรูในย่านหัวหมาก ประเวศ และคลองตัน ซ้ำอีก 6-7 ครั้ง เมื่อได้ทรัพย์สินจะนำไปขายเพื่อนำเงินไปใช้จ่าย
เบื้องต้นนำตัวนายปฏิภาณส่งพนักงานสอบสวนสน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดี และอยู่ระหว่างติดตามเพื่อนร่วมก่อเหตุอีก 2 คนมาดำเนินคดีต่อไป
