คณะภคินีฯ 22 ร.ร.ทั่วประเทศสักการะพระบรมศพ เทิดทูนทรงเป็น’อัครศาสนูปถัมภก’ดูแลทุกศาสนา เผยทำพิธีมิสซาถวายทุกวัน

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 33 โดยวันนี้สำนักพระราชวังเปิดให้เข้ากราบถวายสักการะก่อนเวลาตั้งแต่เวลา 05.00 น.ทางประตูวิเศษไชยศรี กระทั่งเวลา 08.00 น. เปลี่ยนเส้นทางให้มาเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ต้องเดินผ่านพระระเบียงคด วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อไปพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งแม้ตลอดเส้นทางจะมีแดดแรงและร้อนอบอ้าว ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังคงต่อแถวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศอย่างต่อเนื่อง ไม่แสดงสีหน้าเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด

เซอร์ไอรีน ชำนาญธรรม อธิการิณีเจ้าคณะแขวง คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เดินทางมาพร้อมกับคณะภคินีฯจำนวน 40 คน จากโรงเรียน 22 แห่งทั่วประเทศ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งหลังจากพระองค์สวรรคต ทางคณะภคินีฯทุกแห่งทั่วประเทศก็ได้ทำพิธีสวดมนต์และพิธีมิสซา ซึ่งถือเป็นพิธีสูงสุดของคริสต์ศาสนิกชนในทุกๆ วัน และจะทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณที่มีต่อพระองค์ ในฐานะทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ที่ไม่ทรงแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติต่อศาสนาใดๆ ทั้งสิ้นในประเทศไทย

“การปฏิบัติตนของพระองค์ก็ถือเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับชีวิตของนักบวชอย่างดิฉัน คือพระองค์ทรงปฏิบัติตนอย่างมีความพอเพียง พอประมาณ มีความสมถะ และดำเนินชีวิตที่สอดรับกับความเข้าใจธรรมชาติ อุทิศพระวรกายอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและย่อท้อ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในประเทศให้มีความอยู่ดีมีสุข ซึ่งนับว่าคนไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐเช่นนี้ เปรียบได้กับนักบุญในศาสนาคริสต์ที่ความดีความงามมามอบให้แก่มนุษย์บนโลก” เซอร์ไอรีนกล่าว

เซอร์มาร์อาโปลีน ชูวิรัช อธิการิณี โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ สามเสน กล่าวว่า พระองค์ท่านทรงเป็นต้นแบบแห่งการที่รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง และเห็นประโยชน์สุขของส่วนรวมมากกว่าตัวเอง สอดคล้องกับหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ที่เน้นเรื่องความรักผู้อื่น ซึ่งพระองค์ไม่จำเป็นต้องเสียสละและทรงงานขนาดนี้ก็ได้ แต่ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา พระองค์ก็ทรงประพฤติและปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างที่ดีอย่างสม่ำเสมอ มีความเสมอต้นเสมอปลายในการทรงงานและพระราชกรณียกิจอย่างไม่ลดละ ทางโรงเรียนเซนต์ฟรังฯ และโรงเรียนในสังกัดคณะภคินีฯ จึงมีแนวคิดที่จะนำหลักการปฏิบัติตนและแนวคำสอนของพระองค์มาใช้สอนให้นักเรียนนำไปเป็นแบบอย่างและแนวการเตือนตนเองให้ยึดปฏิบัติในการดำรงชีวิตเมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

Advertisement

“ต้องยอมรับว่าเด็กนักเรียนรุ่นใหม่อาจจะไม่ได้รับรู้พระราชกรณียกิจและหลักการดำรงชีวิตที่ดีของพระองค์มากนัก ในวันที่ 2 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ทางโรงเรียนเซนต์ฟรังฯจึงเตรียมจัดงาน เซนต์ฟรังฯตามรอยพระบาท เรียนรู้ศาสตร์พระราชา โดยแบ่งออกเป็น 7 ฐานกิจกรรม อาทิ ฐานกังหันชัยพัฒนา เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองได้มีโอกาสศึกษา เรียนรู้แนวคิดและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระองค์ ในการนำมาปรับใช้เป็นเสาหลัก เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจในการดำรงชีวิตของนักเรียนและผู้ปกครองที่สามารถปฏิบัติได้จริง” เซอร์มาร์อาโปลีนกล่าว

 

เซอร์ไอรีน(ขวาสุด) เซอร์มาร์อาโปลีน
เซอร์ไอรีน-เซอร์มาร์อาโปลีน (จากขวาสุด)

S__4137825

S__4137824

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image