‘ยรรยง’ ถามกลับ 5 ข้อ ‘หมอวรงค์’ แกล้งโง่เรื่องข้าวหรือไม่?

วันนี้ (15 พ.ย.) นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเรื่องข้าว ในบทความชื่อ “วรงค์” โง่จริงหรือแกล้งโง่ที่โจมตีกรณี “ยิ่งลักษณ์” ขายข้าวช่วยชาวนา ? ระบุว่า

ท่ามกลางวิกฤตการณ์ราคาข้าวที่พี่น้องชาวนากำลังได้รับความทุกข์เดือดร้อนแสนสาหัสอยู่ในขณะนี้ ปรากฏว่าชาวนาจำนวนมากได้พยายามดิ้นรนช่วยเหลือตนเองโดยการนำข้าวออกขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งได้รับการตอบสนองอย่างดีจากหลายฝ่ายรวมทั้งท่านอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ด้วย เหตุการณ์ที่ทำให้ผมประหลาดใจมากคือการที่นายวรงค์ เดชกิจวิกรม และอีก 2-3 คน ออกมาโจมตีท่านอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ว่าเป็นผู้ทุบราคาข้าวให้ตกต่ำ ซึ่งผมได้ชี้แจงให้ข้อมูลที่ถูกต้องไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ปรากฏว่าถูกนายวรงค์ตอบโต้ซึ่งผมเห็นว่าเป็นตรรกะวิบัติทั้งสิ้น (ผมวิเคราะห์จากประสบการณ์แท้ๆ ของผมเองและเป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ) ผมไม่อยากจะฟันธงว่านายวรงค์ “โง่จริง” หรือ “แกล้งโง่” เพราะอาจจะไม่เป็นธรรมกับนายวรงค์ผมจึงขอเสนอคำถามข้างล่างนี้เพื่อให้นายวรงค์ตอบซึ่งจะทำให้เราวินิจฉัยได้ว่าเขาโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่

1. นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าราคาข้าวตกตํ่าต่อเนื่องมาเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ขณะนี้ถึงจุดวิกฤตเพราะราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตกตํ่ากว่าตันละ 1 หมื่นบาทเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ส่วนข้าวเปลือกเจ้าราคาก็ตกต่ำเหลือตันละ 5-6 พันบาทเท่านั้น (ราคาข้าวได้ตกตํ่ามาก่อนที่ท่านอดีตนายกฯจะช่วยรับซื้อข้าวจากชาวนาไปช่วยขาย)

2. นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าผลผลิตข้าวนาปีฤดู 2559/60 นี้ จะออกมากกว่าปกติคือเกือบ 30 ล้านตัน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอาจจะถึง 9-10 ล้านตัน (ปกติผลผลิตปีละประมาณ 8 ล้านตัน) ข้าวเจ้าและข้าวอื่นๆ อีกเกือบ 20 ล้านตัน ทั้งนี้เพราะถูกอั้นมาจากปีก่อนๆ ที่ถูกสั่งให้ลดพื้นที่และชะลอการเพาะปลูกด้วยสาเหตุต่างๆ (ข้าวที่ท่านอดีตนายกฯรับซื้อไปขายช่วยชาวนามีปริมาณไม่มากถ้าเทียบกับผลผลิตข้าวทั้งหมดจึงไม่เป็นการทุบราคาหรือกดราคาข้าวให้ต่ำลง)

Advertisement

3. นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าราคาข้าวในประเทศขึ้นอยู่กับราคาข้าวในตลาดโลกซึ่งมีราคาส่งออกข้าวไทย (ราคา FOB) เป็นตัวชี้นำ เพราะไทยส่งออกข้าวเกือบ 1 ใน 3 ของตลาดโลก (ไทยส่งออกข้าวประมาณ 9-10 ล้านตันจากที่ค้าในตลาดโลกประมาณ 30 ล้านตัน) ราคาข้าวที่กำลังตกตํ่าอย่างรุนแรงขณะนี้มีต้นทางจากความผันผวนของตลาดโลกซึ่งกำลังรอดูผลผลิตฤดูใหม่ จีนยังไม่ได้กำหนดโควต้านำเข้า ผู้นำเข้าข้าวเช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ก็ยังรอดูสถานการณ์ เมื่อยังไม่มีออเดอร์ผู้ส่งออกก็ยังไม่รับซื้อข้าวจากโรงสีประกอบกับยังมีสต๊อกข้าวเก่าปี 2558/59 อยู่อีกถึง 2-3 ล้านตัน จึงมีผลต่อเนื่องทำให้โรงสีขาดกำลังซื้อไปด้วย กลไกตลาดทุกส่วนจึงขาดสภาพคล่อง (ราคาข้าวตกตํ่าไม่ได้เกิดจากการทุบราคาแต่เกิดจากภาวะตลาดที่ไม่ได้มีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง ท่านอดีตนายกฯไม่ได้ทุบราคาแต่ทำตรงข้ามคือต้องการช่วยพยุงราคาข้าวไม่ให้ตกตํ่าลงอีก)

4. นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าการที่ชาวนาส่วนหนึ่งนำผลผลิตของตัวเองออกขายให้ผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านกลไกตลาดปกติ นับได้ว่าเป็นการสร้างทางเลือกใหม่และเพิ่มอำนาจต่อรองให้ตนเอง เพราะเท่ากับตัดกลไกตลาดที่เคยกินส่วนต่างถึงประมาณ 50% ออกได้ (ค่าปรับปรุงคุณภาพค่าบรรจุถุง ค่าขนส่ง ค่าวางขาย ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย) ปกติกลไกตลาดส่วนนี้จะผลักภาระให้ชาวนาโดยการหักจากราคารับซื้อข้าวเปลือก (แต่ท่านอดีตนายกฯรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนามาขายโดยรับภาระต้นทุนการผลิตและการตลาดไว้เอง)

5.นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าท่านอดีตนายกฯได้รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาตัวจริงตันละ 12,000 บาท ในขณะที่ราคาที่ตลาดรับซื้อยังไม่ถึง 1 หมื่นบาท จึงทำให้ชาวนาพอใจและมีความสุขตั้งแต่เมื่อได้ขายข้าวราคาสูงกว่าตลาดและพบว่ามีทางเลือกเพิ่มขึ้นคือสามารถพึ่งตนเองได้โดยไม่ต้องผ่านกลไกตลาดปกติ สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้ขายข้าวก็มองเห็นแสงสว่างคือสามารถขายข้าวเองได้โดยไม่ต้องถูกผลักภาระหักราคาเป็นค่าใช้จ่ายด้านการตลาดอีกต่อไป และไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาทุบราคาข้าวให้ตํ่าลงได้อีก (การที่ท่านอดีตนายกฯขายข้าวสารในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาขายส่งข้าวสารหอมมะลิใหม่เล็กน้อย ก็ไม่มีผลเป็นการทุบราคาข้าวให้ต่ำลงแต่อย่างใดตามข้อเท็จจริงที่ระบุในคำถามข้อ 1-ข้อ 3)

ผมขอให้ท่านผู้อ่านช่วยวิเคราะห์ว่านายวรงค์จะสามารถตอบได้ถูกต้องแค่ไหน ถ้าตอบได้ถึงร้อยละ 60 ถือว่ามีความรู้จริงแต่แกล้งโง่ แต่ถ้าตอบได้น้อยกว่าร้อยละ 60 ถือว่าโง่จริงๆ เพราะข้อมูลที่ตั้งคำถามเป็นข้อมูลสาธารณะที่เผยแพร่และรู้กันทั่วไปนะครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image