ถกกม.ลูกเดือด ‘มีชัย’ลั่นกรธ.ไม่ฟุ้ง! ‘สมชัย’ ทิ้งระเบิด ร่างกม.มาก่อนใช่ว่าเก่งกว่า

วงสัมมนา กม.ลูก กรธ. เดือด “มีชัย” ยัน ไม่ฟุ้งเฟ้อเพ้อเจ้อ – ปัดเปล่าแกล้งใคร ด้าน “สมชัย” ย้อน เกิดก่อน ไม่ได้หมายความว่า เก่งกว่า

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดงานสัมมนา “การรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมด้วนว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.กล่าวเปิดงานว่า กฎหมายลูกว่าด้วยกกต.และพรรคการเมือง เป็นองคาพยพสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่างกฎหมาย2ตัวนี้ กรธ.ก็จะดำเนินการส่งร่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ให้สนช.พิจารณาต่อไป เมื่อสนช.ผ่าน 4 กฏหมายลูกนี้แล้ว ก็จะทำให้เรารู้ถึงกำหนดวันเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า หน้าตาจะต่างไปจากร่างที่กรธ.เสนอไปมากน้อยแค่ไหน สำหรับกฎหมายว่าด้วยกกต. เรื่องคุณสมบัติคณะกรรมการ กรธ.ได้คัดลอกมาจากเนื้อหาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ แต่กลับมีคนเข้าใจผิดคิดว่า กรธ.เขียนต่างไปจากกฎหมายแม่ เพื่อต้องการกลั่นแกล้งกัน

นายมีชัย กล่าวว่า เรื่องคุณสมบัติไม่ว่าของกกต. หรือองค์กรอิสระอื่น กรธ.เข้าใจว่า กรรมการเหล่านี้มีที่มาตามรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ขณะที่กรธ.ได้กำหนดคุณสมบัติใหม่ขึ้นมา หลายคนหงุดหงิดอยากให้กรธ.ชี้ขาด แต่เราทำไม่ได้ เพราะผู้ที่จะทำหน้าที่ชี้ขาดเรื่องนี้คือ คณะกรรมการสรรหา หลายคนอยากให้ผ่อนปรนเรื่องคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระ ซึ่งกรธ.ก็ได้ผ่อนปรนเอาไว้ในบางส่วนคือ สนช. ที่จำเป็นต้องทำหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ มีทั้งเรื่องที่ยกเว้นและไม่ยกเว้นให้ ถ้าไม่มีเหตุผลพอ เช่น ยกเว้นให้สนช.ที่เป็นเจ้าของกิจการได้ แต่ในกรณีที่ถือหุ้นในกิจการที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานรัฐ เราก็ไม่ผ้อนให้ เพื่อเป็นมาตราฐานเดียวกับส.ส. แต่ทั้งนี้ผู้ชี้ขาดก็คือศาลรัฐธรรมนูญ สนช.ต้องยื่นถามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ส่วนกรรมการสรรหาที่ลงคะแนนกัน 30 รอบ ไม่ควรเกิดขึ้นอีก เลือกกัน 2-3 รอบควรพอได้แล้ว และหากถูกสภาปฏิเสธ ก็ไม่ควรถูกเสนอเข้ามาอีก เหมือนอย่างการเลือกตรวจการแผ่นดินของสนช.

“กรธ.ไม่เคยคิดฟุ้งเฟ้อเพ้อเจ้อตามอารมณ์ เราเขียนกฎหมายลูกให้สอดคล้องไปตามหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงการรปฏิรูป ขจัดการทุจริตอย่างจริงจังด้วยการลงโทษอย่างรุนแรง จนทำให้บางท่านที่ตามไม่ทันรับไม่ได้ คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งเฉพาะตัว แต่ยืนยันว่า ข้อกำหนดที่ใช้กับกกต. ก็จะนำไปใช้กับองค์กรอิสระอื่น รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญด้วย แต่ก็ต้องขึ้นกับรายละเอียดที่แตกต่างกัน มันจึงอาจเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะกฎหมายกกต.เกี่ยวกับการเลือกตั้งจึงต้องออกมาก่อน กรธ.ทำงานกันอย่างหนัก ไม่มีเวลาว่างคิดฟุ้งซ่าน” นายมีชัย กล่าว

Advertisement

นายมีชัย กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องกกต.จังหวัด กรธ.ฟังความเห็นมาแล้วพบว่า มีไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ที่กกต.จังหวัดไว้ใจได้ และปัญหามักเกิดมาจากกกต.จังหวัด ที่ให้เหตุผลว่าต้องดูแลเลือกตั้งท้องถิ่น ก็พบว่า ทำหน้าที่มอบหมายให้ส่วนท้องถิ่นไปจัดการเลือกตั้ง จับการทุจริตไม่ได้สมกับเรื่องเล่าลือ กำนันเงินหมื่น อบต.เงินแสน ประสิทธิภาพการทำหน้าที่กกต.จังหวัดไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด กรธ.จึงเสนอผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพื่อลองเปลี่ยนใหม่ ยืนยันว่า ไม่ได้ฟุ้งซ่าน แต่เกิดจากความคิดตรึกตรองกันอย่างดี แล้วเจ้าหน้าที่กกต.ที่มารับฟังกรธ.ก็บอกสามารถทำได้ ขณะที่บทบาทของกกต.เราก็มีการเพิ่มอาวุธ ช่องทางหาข้อมูลหลักฐาน และอาจไปไกลถึงให้รางวัลนำจับ แต่ก็ยอมรับว่าอันตรายหากมีการกลั่นแกล้งกัน ก็กำหนดไว้ว่า หากกลั่นแกล้งจะเจอโทษทีรุนแรง สำหรับโครงสร้างกกต. 7 คน ที่เพิ่มมา 2 คน จากสายศาลก็เพื่อเน้นป้องกันการทุจริต ต้องใช้คนที่เชี่ยวชาญทางกฎหมาย โดยถอดแบบมาจากองค์คณะผู้พิพากษา

“ภาพรวมของรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกทั้งหมด ที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระทั้ง 5 และศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นเครื่องค้ำยันระบอบการเมืองการปกครองของเราให้ไปข้างหน้าอย่างมีสมเหตุสมผล เพื่อพัฒนาประเทศของเราได้อย่างเต็มที่ อาจดูเข้มงวดรุนแรงบ้าง แต่ทั้งหมดเราเขียนจากสิ่งที่เกิดขึ้น ผมยังแอบฝันถึงวันนึงที่สหรัฐอเมริกาจะต้องมาเลียบแบบอะไรที่แปลกใหม่จากเรา เนื่องจากเรามีประสบการณ์มามาก แล้วก็พยายามแก้ปัญหาทุกรูปแบบมาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก” ประธานกรธ.ทิ้งท้าย

จากนั้น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่างถึงหลักการของร่างกฎหมายกกต.ที่นำเสนอ ว่า ต้องการทำให้กกต.มีบทบาทสำคัญ 3 ข้อ คือ1. ทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด เพราะถ้าใช้สิทธิกันมาก การทุจริตก็จะน้อย 2. ทำให้การใช้สิทธิอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ และ3. ทำให้มีกลไกป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง อยากขอเรียกร้องทุกพรรคการเมืองที่มา ร่วมกันแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ส่วนกรธ.ก็ควรรับฟังอย่างจริงใจ ไม่ใช่ใช้งบประมาณ จัดงานเป็นพิธีกรรม แล้วก็ไม่นำเอาข้อเสนอไปใช้

Advertisement

“แต่ร่างที่กกต.เสนอมาเป็นคนละเรื่องกับที่กรธ.เขียน ผมอาจทำให้ต้องวงแตกกันนิดนึง เช่น เราเสนอมาให้มีกกต.จังหวัดเหมือนเดิม แต่กรธ.เขียนกลับไม่มี แล้วมีผู้ตรวจการเลือกตั้งขึ้นมาแทน ซึ่งผมว่ามันเป็นกลไกที่ใช้ไม่ได้ กรธ.ควรเขียนกฎหมายแล้วเปิดให้เราได้วิจารณ์กัน แล้วผมจะวิจารณ์เอง เพราะผมทำเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ทำเพื่อรักษาหน้าใคร กกต.เสนออะไรไม่เหมาะสมก็วิจารณ์ได้ อยากให้สังคมไทยใช้ความจริงมาคุยต่อหน้ากัน ไม่ใช่เกิดมานานกว่า ร่างกฎหมายมาหลายฉบับกว่า แล้วหมายความว่าต้องเก่งกว่า” นายสมชัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image