พลังนักช้อป (ออนไลน์) จีนเขย่าโลก : คอลัมน์ นอกลู่ในทาง

แจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา

ด้วยขนาดของประชากรในประเทศกว่า 1.3 พันล้านคน มากที่สุดในโลก (อินเดียเป็นอันดับสองที่ 1.2 พันล้านคน ข้อมูล ณ ปี 2556) เทียบกับบ้านเราแล้วห่างกันไม่เห็นฝุ่น จริงๆ ก็ไม่น่านำไปเทียบ แค่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวในบ้านเราปีละ 9-10 ล้านคนก็ถือว่าน่าดีใจมากแล้ว เพราะหมายถึงกำลังซื้อมูลค่ามหาศาล

อันที่จริงไม่เฉพาะกับตลาดในบ้านเรา แต่คนจีนได้กลายเป็นกำลังซื้อที่สำคัญของโลกด้วย

ข้อมูลล่าสุดจากการเปิดเผยของ “อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง” ระบุว่า ในมหกรรม “11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล” เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดซื้อขายสินค้ารวมมูลค่ากว่า 1.207 แสนล้านหยวน หรือ 1.78 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คำนวณเป็นเงินไทยไม่ถูกกันเลยทีเดียว

เป็นตัวเลขที่เพิ่มจากปีที่แล้วถึง 32%

Advertisement

ที่น่าสนใจกว่านั้น ใน 1.78 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นยอดการซื้อขายผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิสก์ “อาลีเพย์” บนอุปกรณ์พกพาสูงถึง 82% และมากกว่า 69% ในปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่าสูงถึง 9.9 หมื่นล้านหยวน หรือ 1.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ตลอดทั้งวันในมหกรรมโกลบอลช้อปปิ้งเฟสติวัล “อาลีเพย์” รองรับการทำธุรกรรมทางการเงินรวมกันมากกว่า 1 พันล้านรายการ และมีอัตราการประมวลผลสูงสุดที่ 120,000 รายการ/วินาที แต่หากประมวลผลคำสั่งซื้อที่อัตราสูงสุดโดยรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 175,000 คำสั่ง/วินาที

อะไรจะขนาดนั้น

ผลสำเร็จดังกล่าวทำให้ “แดเนียล จาง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบากรุ๊ปกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า มหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ปีนี้ ถือเป็นการเผยโฉมอนาคตของวงการค้าปลีกในยุคหน้า ที่ผสมผสานทั้งความบันเทิง การค้าขาย และการโต้ตอบกับผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ๆ

“เป็นประสบการณ์ที่หลากหลายลงตัวอย่างยิ่ง โดยในทุกช่วงของการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมช่วงก่อนเริ่มงาน งานกาลานับถอยหลัง หรือตัวงานโกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล 24 ชั่วโมงนี้ มีการติดต่อสื่อสารและโต้ตอบกันระหว่างผู้บริโภคและผู้ขายสินค้ามากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อันเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงอนาคตในยุคที่ธุรกิจค้าปลีกในโลกออนไลน์และออฟไลน์จะพลิกโฉมจนเกิดเป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าหลายร้อยล้านคนที่คุ้นเคย และสนใจเทคโนโลยีโมบาย และดิจิทัล

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 อย่างเป็นทางการจะเริ่มต้นขึ้นในเที่ยงคืนวันที่ 11 พฤศจิกายน “อาลีบาบา กรุ๊ป” ได้ถ่ายทอดสดงานกาลานับถอยหลังให้ผู้ชมได้ติดตามผ่านช่องทางออนไลน์และสมาร์ทโฟน ด้วยแอพพลิเคชั่น Youku Tudou, Tmall และ Taobao รวมถึงถ่ายทอดสดให้ชมทั่วประเทศจีนทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเจ้อเจียง ควบคู่ไปกับการแพร่ภาพสดในฮ่องกงและมาเก๊าเป็นครั้งแรก

บิลด์กันเต็มที่ทั้งช่องออนไลน์และออฟไลน์

ในงานกาลานับถอยหลังที่จัดขึ้นที่ศูนย์กีฬาเซินเจิ้น ยูนิเวอร์ซิเอด เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เชิญแขกระดับซุปเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆ จากทั่วโลกมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นเดวิด-วิคตอเรีย เบ๊กแฮม, สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน, โคบี ไบรอันท์ และโธมัส มุลเลอร์ เป็นต้น

“คริส ถัง” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด อาลีบาบากรุ๊ป เสริมว่า ผู้บริโภคที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่หน้าจอโทรทัศน์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงได้ด้วยการเขย่าหรือจิ้มหน้าจอโทรศัพท์ ทั้งสามารถสแกนรหัสโปรโมชั่น พูดคุยกับผู้ชมท่านอื่น หรือเลือกซื้อสินค้าได้โดยตรง ทำให้เกิดเป็นประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน

“ปีนี้ เราได้สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ชมที่ติดตามการถ่ายทอดสดงานกาลานับถอยหลังของเรา โดยผู้ชมจะมีส่วนร่วมกับการแสดงบนเวทีได้แบบสดๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ด้วย”

เพียง 5 นาทีแรกของมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ยอดซื้อขายสินค้าที่ชำระเงินผ่าน “อาลีเพย์” ก็ทะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 6.8 พันล้านหยวนไปแล้วเรียบร้อย ก่อนที่จะพุ่งทะยานไปแตะระดับ 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.53 หมื่นล้านหยวน ภายในเวลาแค่ 1 ชั่วโมง

“โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล” ของมังกรจีน

อาลีบาบาในปีนี้จึงไม่ได้เป็นมหกรรมช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ใหญ่โต

กว่าเทศกาลช้อปปิ้ง “แบล๊ก ฟรายเดย์” ของสหรัฐอเมริกา และ ไซเบอร์ มันเดย์ รวมกันเท่านั้น แต่ถือได้ว่ามหกรรมกระตุ้นกำลังซื้อที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกอีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์สินค้าของประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ข้อมูลจาก “อาลีบาบา” ระบุด้วยว่า ประเทศที่มีมูลค่าการขายสินค้าให้ผู้บริโภคจีนสูงสุด ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และเยอรมนี

และถ้าแยกลงไปในแต่ละภูมิภาค แบรนด์ของประเทศที่ทำยอดขายได้สูงสุดแบ่งออกเป็นแบรนด์จากสหรัฐ ได้แก่ แอปเปิล, ไนกี้, นิวบาลานซ์, เพลย์บอย และสเก็ตเชอร์ จากยุโรป ได้แก่ ซีเมนส์, ฟิลิปส์, อาดิดาส, แจ็ค โจนส์ จากญี่ปุ่น ได้แก่ ยูนิโคล่, พานาโซนิค, ชาร์ป, โซนี่, เอสเค-ทู จากออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ ได้แก่ ยีนส์

เวสท์, อักก์, สวิสส์, แมคโคร และแบล็คมอร์ส

ย้ำให้เห็นชัดเจนด้วยว่า “อาลีบาบา” ไม่ได้ใหญ่เฉพาะในจีน

ก่อนที่วันที่ 11 เดือนพฤศจิกายน หรือวันที่ 11 เดือน 11 จะกลายเป็นวัน “ช้อปปิ้ง (ออนไลน์) แห่งชาติ”

ในจีน วันที่ 11 เดือน 11 ถือเป็นวันของคนโสด เริ่มต้นมาจากการจัดกิจกรรมของนักศึกษากลุ่มหนึ่งของมหาวิทยาลัยนานกิง เมื่อปี 2536 ที่ต้องการให้กำลังใจบรรดาคนโสดด้วยกัน จึงกำหนดให้วันนี้เป็นวันแห่ง

การช้อปปิ้งที่พวกเขาจะซื้อของที่ตนเองต้องการ และมีกิจกรรมสังสรรค์กันขึ้น เพื่อเปลี่ยนความเหงาความเศร้าจากการไม่มีใครเคียงข้างมาเป็นความสนุกสนาน

เรียกว่า เป็นวันเฉลิมฉลองความเป็นโสดอย่างมีความสุข

ในปี 2552 “แจ๊ก หม่า” เจ้าพ่ออาลีบาบาได้นำไอเดียนี้ไปต่อยอด และประกาศให้วันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปี เป็นวันช้อปปิ้งแห่งชาติที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้หมด ไม่จำกัดเฉพาะคนโสด โดยมีสารพัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อออนไลน์

และก็ไม่ผิดหวัง ทั้งคนโสดและไม่โสดชาวจีนสำแดงพลังนักช้อปกันเต็มเหนี่ยว ในเวลานี้จะมีแบรนด์ไหน ประเทศไหนไม่รักกำลังซื้อ (คน) จีน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image