‘บิ๊กต๊อก’ เร่ง ‘ดีเอสไอ’ พิสูจน์ตัวเองหลัง ‘2 จนท.’ เอี่ยวคดีฟอกเงินคลองจั่น จี้หาคนเบื้องหลัง

(แฟ้มภาพ)พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงข้อซักถามกรณีข้าราชการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 2 รายเข้าไปเกี่ยวข้องการรับเงินในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม หลังจากที่ตนเข้ามารับตำแหน่งก็ได้สอบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเร่งรัดเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ดังนั้น เรื่องเจ้าหน้าที่ดังกล่าว หลังจากที่ทำให้คดีเดินหน้า ก็จะเห็นว่ามันเกิดจากดีเอสไอด้วยหรือไม่ เพราะมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องถึงขนาดจะต้องพักราชการ และมีหลักฐานการรับเงินชัดเจน ซึ่ง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ก็รายงานให้ทราบว่ามีหลักฐาน

“มันก็มองได้ว่า ยุคก่อนที่ผมจะมา ดีเอสไอมีปัญหาจริงๆ ผมพูดตรงๆ อย่างนี้ เวลาผมเข้ามาก็รื้อให้มันเดินได้ และมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง คุณย่อมรู้ดีว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นนั่งอยู่หน้าห้องใคร จริงหรือ ทั้งที่เขาไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง แต่ทำไมเข้าไปรับผิดชอบเงิน 40 ล้านบาทตามที่เขากล่าวหา และ 2 คนนี้ไปอยู่หน้าห้องใคร ไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นเจ้านายเขาไปสั่งให้เขาทำ ก็แสดงว่า 2 คนนี้อาจจะมีอิทธิพล หรือถูกสั่งมาก็ได้ ผมก็ให้อธิบดีดีเอสไอเร่งรัดสอบสวนให้แล้วเสร็จ” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

รมว.ยุติธรรมกล่าวต่อว่า เราต้องพิสูจน์ตัวเอง ที่ผ่านมาสังคมหรือสื่อมวลชนยังถามตนเลยว่าจะยุบดีเอสไอหรือไม่ ซึ่งตนก็บอกเขาว่าต้องพิสูจน์ตัวเอง เพราะคดีนี้ถ้าอธิบดีดีเอสไอบอกว่ามีหลักฐานชัดเจน ตนก็บอกเขาว่าต้องเร่งไปสืบให้ชัดเจน ไม่ต้องรอ 30 วัน เพราะคดีนี้ทำมาก่อนที่ตนจะเข้ามานานแล้ว และสืบให้ได้ว่าใครเชื่อมโยงกับเขา ตนไม่เชื่อว่าเขาจะทำโดยพลการ เพราะเขาไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับคดีเลย อีกทั้งคนที่จ่ายเงินจ่ายทองจำเป็นต้องจ่ายให้ 2 คนนี้หรือ ไม่เกี่ยวกับ 2 คนนี้เลย ตำแหน่งหน้าที่ก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดสั่งการได้อะไรได้ และใครล่ะควรจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังสั่งการในเรื่องนี้ ตนเชื่อว่าสังคมคิดเป็น และตนก็คิดตรงๆ อย่างนี้ เพราะตำแหน่งหน้าที่มันไม่ได้อยู่ในจุดที่มีอิทธิพลต่อการยับยั้งคดีได้ยาวนานจนตนเข้ามา

“สังคมก็ประเมินเอาเองละกันว่าทำไมคดีถึงนิ่งไปตั้งนาน เพราะอะไร ก็นี่แหละเราถึงไม่เชื่อว่า 2 คนนี้จะทำโดยพลการ และมีสิทธิมีเสียงไปสั่งการผู้บัญชาการ รองอธิบดี และอธิบดีได้ มันไม่ใช่ หรือมันอาจจะใช่ก็ได้ จึงได้สั่งให้อธิบดีไปพิสูจน์มา ผมสั่งอธิบดีให้ไปพิสูจน์ในประเด็นที่ผมสงสัยมาให้ดูว่า คุณเชื่ออย่างไรต่อลูกน้องคุณ จริงหรือว่า 2 คนนี้ไปอยู่ในจุดที่สั่งได้ ก็แสดงว่าข้าราชการดีเอสไอทุกคงเข้าไปก้าวก่ายคดีหลายคดีจนยุ่ง” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะบานปลายไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือไม่ ในเรื่องของการถอนอายัดที่ดิน รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ตนขอถามผู้สื่อข่าวกลับว่า สิ่งเหล่านั้นทำถูกต้องหรือไม่ กระบวนการเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่ เมื่อคุณตอบว่าไม่ถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้อง ปปง.ก็ต้องโดน เพียงแต่ตอนนี้ ปปง.ไม่ได้เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งตนไม่สามารถสั่ง ปปง.ได้ จึงต้องไปถามคนที่เป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่มาถามตน แต่ถ้าพบพยานหลักฐาน ตนก็จะส่งพยานหลักฐานไปให้กับผู้บังคับบัญชา ปปง.ดำเนินการต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image