กรมอุทยานฯ ให้เวลารื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเกาะเสม็ด 2-3 เดือน ยันนักท่องเที่ยวไม่ลด

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นายณัฐพล รัตนพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยถึงการจัดระเบียบอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยองว่า ขณะนี้ในเรื่องของการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ รีสอร์ทหลายแห่งยินยอมที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำพื้นที่อุทยานฯ ออกไป แต่บางแห่งขอให้มีการตรวจพิสูจน์ก่อน ตนได้มอบหมายให้หัวหน้าอุทยานฯ ไปดำเนินการส่วนที่ลุกล้ำพื้นที่อุทยานฯ ถ้าไม่รื้อภายใน 2-3 เดือน จะดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีหลายรายยินดีรื้อออกไป ทั้งนี้ปัญหาสำคัญของเกาะเสม็ดอย่างหนึ่งคือมีแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมากนับพันคน และมีการก่อสร้างที่พักคนงานในลักษณะเป็นกระต๊อบหรือเพิงพักกระจายกันไปทั่วในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแก้ปัญหาต่อไป

นายณัฐพล กล่าวต่อว่าส่วนความคืบหน้าในการรื้อท่าเรือขึ้นเกาะเสม็ดนั้น ซึ่งมีอยู่จำนวน 11 แห่งนั้น ต้องไปดูรายละเอียดว่าที่ผ่านมาหลังกรมอุทยานฯ เข้าไปจับกุมแล้วทางผู้ประกอบการมีการร้องไปยังศาลปกครองอยู่กี่แห่ง หากสิ้นสุดกระบวนการของศาลปกครองแล้วก็สามารถรื้อถอนได้ทันที และกำลังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อความชัดเจนว่าจะเปิดให้ใช้ท่าเรือที่จุดใดบ้าง โดยเบื้องต้นเห็นว่าควรใช้ท่าเรือ อบจ.ระยองเพียงแห่งเดียว ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการอ้างว่าการจัดระเบียบเกาะเสม็ดทำให้นักท่องเที่ยวลดจำนวนลงนั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะนักท่องเที่ยวยังคงเดินทางไปเที่ยวเกาะเสม็ดเป็นปกติและห้องพักบนเกาะเต็มอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญคือกรมอุทยานฯ เก็บเงินค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ได้เพิ่มมากขึ้น คือช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาสามารถเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 4 เท่า คือ 4.8 ล้านบาท จากที่เก็บได้เพียง 1.2 ล้านบาทในช่วงเดือนต.ค.ปี 2558

“ในสัปดาห์นี้จะลง อุทยานฯ ลำน้ำกระบุรี จ.ระนอง เพื่อดำเนินคดีบุกรุกอุทยานฯ ลำน้ำกระบุรี ในบริเวณเกาะขวางเนื้อที่ 221 ไร่ ซึ่งเดิมในปี 2536 ก่อนประกาศเขตอุทยานฯ มีการขอเช่าพื้นที่กับกระทรวงมหาดไทยเพื่อเพาะปลูกพืชเกษตรและเลี้ยงสัตว์ โดยหมดสัญญาเช่าในปี 2546 ต่อมาได้มีการประกาศเขตอุทยานฯ ในปี 2542 ตามระเบียบกฎหมายเมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งอุทยานฯ ผู้เช่าก็ต้องออกจากพื้นที่ป่าไป แต่เขายังไม่ยอมออกกรมอุทยานฯก็อะลุ่มอล่วยให้อยู่จนครบสัญญาเช่าในปี 2546 ซึ่งหัวหน้าอุทยานฯ ได้ไปติดประกาศให้เขาออกจากพื้นที่แต่ก็ยังไม่ยอมออก โดยผู้ครอบครองเป็นอดีตนักการเมืองชื่อดังในพื้นที่” นายณัฐพลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image