รักแท้มีจริง ฝ่ายชายไม่เปลี่ยนใจแม้แฟนสาวจะไร้ขา 2 ข้าง (คลิป)

 

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้พบชีวิตความรักของสองหนุ่มสาวสามีภรรยาคู่หนึ่ง คือ นายวีระพล หรือย๊ะ สุดตลาวดี และ น.ส.อรอมล หรือหนูนา สมิง ซึ่งเปิดร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องสำอางชื่อร้าน NY Goodsshop อยู่ที่ 3 แยกวัดปทุมเมฆ เลขที่ 135 / 7 ถ.เทศบาล 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์

ทั้งคู่มีความแตกต่างจากหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างปกติทั่วไป เพราะฝ่ายหญิงไม่มีขาทั้ง 2 ข้างมานานกว่า 2 ปี เนื่องจากถูกแพทย์ตัดออกตั้งแต่เหนือหัวเข่าลงมาเพื่อช่วยชีวิต จากอาการแพ้ยาอย่างรุนแรงและเส้นเลือดอุดตันฉับพลัน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2556 ทำให้ฝ่ายชายต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะไปไหนจะต้องคอยอุ้มฝ่ายหญิงขึ้นลงรถทุกครั้ง และด้วยหัวใจที่มั่นคงนายวีระพล ก็ไม่เคยคิดที่จะหนีจากหญิงสาวไปไหน
จากจุดเริ่มต้นของทั้งคู่ที่มีฐานะไม่ค่อยดีนัก แต่ได้พยายามทำงานเก็บหอมรอบริบ เพื่อรวบรวมเงินเพื่อทำตามสัญญาที่ทั้งคู่เคยให้ต่อกันมา ตั้งแต่ก่อนที่เจ้าสาวจะป่วยและถูกตัดขาว่า จะแต่งงานกัน และในที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2558 ที่ผ่านมา ซึ่งงานแต่งตามประเพณีจัดขึ้นที่บ้านเกิดเจ้าสาว และงานเลี้ยงมงคลสมรสจัดขึ้นที่หอประชุมอำเภอเมืองสุรินทร์ และถึงแม้เจ้าสาวจะไม่มีขา ก็ยังมีเจ้าบ่าวที่คอยอุ้มเพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าสาวตลอดพิธีแต่งงาน ไม่ว่าจะงานแต่งเช้า และอุ้มขึ้นเวที ในงานเลี้ยงมงคลสมรสก็ตาม สร้างความประทับใจให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานได้เป็นอย่างมาก

Advertisement

น.ส.อรอมล หรือหนูนา เปิดเผยว่า ช่วงที่ถูกถูกตัดขาก็คิดอะไรไม่ออก ชีวิตมืดมน แม่ก็เสียชีวิตไปนานแล้ว พ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ เหมือนคนไม่มีญาติ ไม่เหลือใครเลย มีเพียงแฟนคือนายวีระพล ที่เคยอยู่ลำบากด้วยกันมา เคยอดข้าวอดปลาก็ไม่เคยทิ้งกัน แต่ก็คิดอย่างเดียวว่า แฟนก็คงจะทิ้งตนเองไปแน่นอน คงไม่อยากอยู่ลำบากกับเรา เพราะเราไม่มีขา เลยคิดที่จะฆ่าตัวตายอย่างเดียว ไม่อยากจะอยู่แล้ว แต่แฟนเขากลับให้กำลังใจตนเองมาตลอด และบอกกับตนว่าไม่เป็นไร ถึงจะไม่มีขา แต่เขาจะเป็นขาให้ จะดูแล ตนก็รู้สึกดีใจ ไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีผู้ชายดีๆ อย่างเขา และตั้งแต่ตนถูกตัดขา ตนจะรู้สึกหงุดหงิดและอารมณ์ร้อนบ่อย แต่เขาก็อดทนและให้กำลังใจตลอด

ด้านนายวีระพล เปิดเผยว่า คบกันมาร่วม 2 ปี ก่อนที่หนูหนาเขาจะถูกตัดขา ช่วงแรกหลังแฟนถูกตัดขาตนก็รู้สึกลังเลกับชีวิตเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมา แฟนเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ผิดอะไร แค่ถูกตัดขาและไม่มีอะไรบกพร่อง และตนก็พร้อมจะดูแล บอกเขาหลังจากเขาได้สติ จากนั้นเราจึงมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าโดยให้แฟนดูแล ส่วนตนก็ทำงานอยู่ที่บริษัทขายรถยนต์ ก่อนจะเก็บเงินจัดงานแต่งงาน และหลังจากที่เจ้าของโต๊ะจีน รู้ว่างานเป็นของตนเองและเจ้าสาวพิการไม่มีขา เขาก็สงสารลดราคาโต๊ะจีนและเครื่องเสียงให้อีกด้วย ตนต้องขอขอบคุณมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image