ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
อยุธยามีปัญหามรดกโลก จนคณะกรรมการมรดกโลกและยูเนสโก ถึงกับอดรนทนไม่ได้ ต้องส่งสัญญาณบอกไทยว่ามีข้อกังวลและข้อห่วงใยหลายเรื่อง
“ข้อกังวลและข้อห่วงใย” แปลว่าข้อท้วงติงและข้อตักเตือน เป็นคำอธิบายของผู้รู้ภาษาการเมืองระหว่างประเทศ ว่าเป็นมารยาทในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ต้องแสดงความสุภาพ บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น โดยไม่พูดตรงๆ ว่า อยุธยาอยู่ในภาวะอันตราย เพราะไทยบริหารจัดการอนุรักษ์อย่างไม่เป็นไปตามมาตรฐานหลักวิชาสากลโลกทางประวัติศาสตร์โบราณคดี
ทั้งนี้ โดยสังเกตจากระหว่างบรรทัดในข้อกังวลและข้อห่วงใย ตรงที่ว่า
“ให้ทำแผนแม่บทการจัดการบริหารอนุรักษ์ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น เพราะแผนเดิมที่ทำอยู่เคยทำมาเมื่อ 20 ปีก่อน ไม่ทันสมัย จะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติเข้าร่วม”
“ให้ประเทศไทยเชิญผู้เชี่ยวชาญมาจัดการบริหารโบราณสถาน จ. พระนครศรีอยุธยา”
แต่ไทยจะปลอบใจตัวเองว่า “โอกาสที่มรดกโลกอยุธยาจะถูกขึ้นบัญชีภาวะอันตรายมีน้อยมาก เพราะไทยทำตามข้อแนะนำของคณะกรรมการมรดกโลก” ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะรอด
แม้ไทยทำตามข้อแนะนำก็จริง แต่ทำแบบผักชีโรยหน้าแบบไทยๆ ที่ใครๆ ทั้งโลกก็รู้ๆ เห็นๆ โดยไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ฉะนั้นยูเนสโกกับกรรมการมรดกโลกยิ่งรู้ซาบซึ้งตรึงใจ จึงให้ใบเหลืองส่งสัญญาณ
ทางแก้ไข คือต้องเลิกแบบไทยๆ
อยุธยา มีโอกาสอยู่ในบัญชีภาวะอันตราย มีผู้ชำนาญการอยุธยาบอกว่าเพราะกระทรวงวัฒนธรรมทำงานโบราณคดีแบบไทยๆ
ประชาธิปไตยเป็นสากล จึงได้รับการยอมรับเกือบหมดโลก ส่วนประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่แท้คือต่อต้านประชาธิปไตย หรือไม่ประชาธิปไตย
ดังนั้น โบราณคดีแบบไทยๆ ย่อมไปทางเดียวกัน คือไม่โบราณคดี และไม่เหมาะที่จะใช้อนุรักษ์อยุธยามรดกโลก
ประวัติศาสตร์อยุธยาแบบไทยๆ ที่ใช้งานทุกวันนี้ จึงไม่ประวัติศาสตร์อยุธยา แต่เป็นอย่างอื่นที่เหมือนนิยาย ซึ่งทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดไม่จริงตามนั้น
ทางแก้ไขให้อยุธยาเป็นมรดกโลกอย่างมีคุณค่าแท้จริง คือต้องเลิกแบบไทยๆ เพราะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าใช้การไม่ได้
จากนั้นมุ่งสู่ความเป็นสากลให้จงได้ ซึ่งไม่ยาก หากมีความเพียร
หนังสืออยุธยาอย่างง่ายๆ
หกโมงเช้าวันศุกร์ 25 พฤศจิกายน ต้องไปรอพบหมอตามนัดที่โรงพยาบาลศิริราช
ผมเดินแวะไปเข้าร้านนายอินทร์อยู่ในโรงพยาบาลศิริราช จะหาหนังสืออ่านก็พบโดยบังเอิญ เลยซื้อทันที 1 เล่ม อยุธยา จากสังคมเมืองท่านานาชาติ สู่มรดกโลก โดย กำพล จำปาพันธ์ สำนักพิมพ์มิวเซียมเพรส พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2559 ราคา 365 บาท
เปิดอ่านนั่งรอหมอก็พบว่ามีหลายอย่างที่ผมตื่นเต้นเพราะไม่เคยรู้มาก่อน ถ้าจังหวะเหมาะเมื่ออ่านแล้วอย่างละเอียด จะยกมาบอกเล่าให้รู้กันมากๆ จะได้ขายดีๆ แล้วรู้เท่าทันประวัติศาสตร์อยุธยาแบบไทยๆ
เนื้อหาท้ายสุดเป็นเรื่อง อยุธยามรดกโลก จะคัดมาโดยจัดย่อหน้าใหม่ แล้วเน้นตัวให้ชัดๆ ดังนี้
“อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็น ‘มรดกโลกทางวัฒนธรรม’ (Cultural world heritage) จากองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ เมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534”
“อย่างไรก็ตาม องค์กรยูเนสโก มีข้อกำหนดว่าหากแหล่งประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น ไม่สามารถรักษามาตรฐานไว้ได้จนทำให้แหล่งมรดกโลกนั้นๆ สูญเสียคุณลักษณะไปโดยฝีมือมนุษย์โดยไม่มีมาตรการแก้ไขที่จำเป็น องค์การยูเนสโกก็สามารถถอดถอนแหล่งมรดกโลกออกจากบัญชีได้”
“ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมา อยุธยามีทั้งด้านที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวในการจัดการแหล่งมรดกโลกแห่งนี้”
(จบข้อความที่คัดจากหนังสือ)