สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลจีนประกาศเก็บภาษีพิเศษเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ระดับไฮเอ็นด์ที่มีราคาสูงกว่า 1.3 ล้านหยวน (ราว 6.7 ล้านบาท) นับเป็นมาตรการล่าสุดในการปราบปรามการบริโภคใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เดินหน้าปราบปรามการรับสินบน และรณรงค์ให้บรรดาผู้นำทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศใช้ชีวิตอย่างประหยัดมัธยัสถ์ และพุ่งเป้าเล่นงานคนที่แสดงออกถึงความมีฐานะร่ำรวยมากกว่าปกติ
แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังระบุว่า อัตราภาษีใหม่นี้จะบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้เลย และมีเป้าหมายเพื่อ “แนะแนวทางการใช้จ่ายอย่างมีเหตุมีผล” และส่งเสริมยานพาหนะประหยัดพลังงาน
ข่าวระบุว่า จีนเก็บภาษียานพาหนะนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดที่ส่งออกมายังจีนที่อัตราสูงอยู่แล้วที่ 25 เปอร์เซ็นต์ โดยอัตราภาษีพิเศษที่จัดเก็บใหม่นี้มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อรถยี่ห้อหรู อาทิ เฟอร์รารี โรลส์รอยซ์ ลัมโบกินี เช่นเดียวกับรุ่นไฮเอ็นด์ของเมอร์เซเดสและบีเอ็มดับเบิลยู
ทั้งนี้ ยอดขายของเฟอร์รารีในจีนเพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้โดยนำเข้ามาขายได้ 160 คัน ขณะที่บรรดาผู้ผลิตรถหรูต่างมียอดขายเติบโตขึ้นมากในจีนแม้ว่าจะมีการปราบปรามการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่
ด้านยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลในจีนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในช่วงตั้งแต่ปี 2553-2558 แต่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจทำให้อัตราการเติบโตดังกล่าวลดลงเรื่อยๆ โดยเหลือเพียงแค่ 4.7 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่แล้ว ด้วยยอดขายรวม 26.4 ล้านคัน
