ก.ล.ต.ลงโทษอดีต กก.แจส ใช้ข้อมูลภายในซื้อสัญญาฟิวเจอร์

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต. ) เปิดเผยว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบนายโสรัชย์ อัศวะประภา อดีตกรรมการบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (แจส) เป็นจำนวนเงิน 5,560,000 บาท กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แสวงหาประโยชน์จากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยอาศัยข้อมูลของ แจส ที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่านายโสรัชย์ ซึ่งขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งกรรมการของแจส ได้ทราบข้อมูลจากหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า ในวันที่ 25 มกราคม 2559 คณะกรรมการของแจส จะมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลประจำปี 2558 นายโสรัชย์จึงได้สั่งซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า JASH16 Futures ซึ่งเป็นสัญญาฯ ที่อ้างอิงกับราคาหุ้นแจส จำนวน 10,000 สัญญา ก่อนเข้าประชุมในวันดังกล่าว และต่อมาภายหลังจากแจส ได้เปิดเผยข้อมูลการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้นแจส ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น นายโสรัชย์จึงได้สั่งขาย JASH16 Futures และได้รับกำไรจากการลงทุน

นอกจากนี้ นายโสรัชย์ได้ทราบข้อมูลจากหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า ในวันที่ 7 มีนาคม 2559 คณะกรรมการ แจส จะพิจารณาอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนด้วยราคาซื้อที่สูงกว่าราคาตลาด นายโสรัชย์ได้สั่งซื้อ JASH16 Futures อีกครั้งจำนวน 8,000 สัญญา ในวันที่ 2 มีนาคม 2559 และต่อมาภายหลังจาก แจส ได้เปิดเผยข้อมูลโครงการฯ ดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้น แจส ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น นายโสรัชย์จึงได้สั่งขาย JASH16 Futures และได้รับกำไรจากการลงทุนเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ นอกจากมีพฤติกรรมการใช้ข้อมูลลักษณะข้างต้นแล้ว นายโสรัชย์มิได้เปิดเผยข้อมูลการมีส่วนได้เสียของตนจากการเป็นผู้ถือ JASH16 Futures ให้คณะกรรมการบริษัททราบก่อนการออกเสียงลงมติในการเข้าประชุมทั้งสองครั้งด้วย

การกระทำของนายโสรัชย์เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามที่กำหนดในมาตรา 89/7 ประกอบมาตรา 89/10 และมาตรา 89/11 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 281/2 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงมีคำสั่งให้นายโสรัชย์ชำระค่าปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 5,560,000 บาท
นอกจากนี้ การถูกเปรียบเทียบดังกล่าว ทำให้นายโสรัชย์มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจให้เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน* เป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ซึ่งทำให้นายโสรัชย์ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน (ถ้ามี) และไม่สามารถดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนได้อีกจนกว่าจะพ้นระยะเวลาดังกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image