ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
เผยแพร่ |
เมื่อตอนที่ปึงป้อเง็กรุกเข้าไปยังแป๊ะจุ้ยเก็ง (วังวารีบริสุทธิ์) ณ ยอดเขาไท่ฮั้งซัวอันห่มคลุมไว้ด้วยเมฆหมอกขาว
ขาวจนเป็นสีเงิน
เส้นทางอันทอดไปยังปากประตูวังดูราวกับเป็นบันไดนำสู่สรวงสวรรค์ ทั้ง-ทั้งที่สองรายทางเกลื่อนด้วยกองกระดูกขาว
ขาวเหมือนเมฆหมอกสีเงินที่ห่มคลุมทั้งยอดเขา
การทดสอบแรกสุดเป็นดรุณีรุ่นเยาว์ เปลือยร่าง ทรวงอก 2 ตูมตั้ง 2 เท้ากลมกลึงเรียวยาว ริมฝีปากอิ่มเอิบประดับรอยยิ้มหยาดเยิ้ม
จากนั้นเข้าสู่ด่านกระบี่ 3 ด่าน
ด่านที่ 1 เป็นกระบี่ “นิ่วจ้วงเคี้ยงคุนชัวะซิ้วเกี่ยม” (ไม้ตายพลิกจักรวาล) รวดเร็วประดุจประกายไฟ
ด่านที่ 2 เป็นกระบี่เพลงเดียวกับของ “บุรุษชุดขาว”
ด่านที่ 3 กลับเป็นดรุณีน้อยแห่งหอ “แชแชเซียวเล่า” (ดาราราย) สวมใส่ผ้าป่านดำสนิท ผมสีนิลของนางพลิ้วปลิวตามลม
ยืนทอดสายตาเหม่อมองเมฆขาวอย่างเซื่องซึม
ดรุณีน้อยดูแลเอาใจใส่มันอย่างดียิ่ง เรียกร้องให้มันกลับลงไป แต่มันกลับยืนกรานจะพบประมุขวังวารีบริสุทธิ์ให้จงได้
เมื่อมิอาจห้ามปรามนางก็ยินดีชี้ทางให้
โดยมีข้อแม้เพียงให้มันประมือกับนางก่อน นางอ้างว่าได้ศึกษาวิชาฝีมือแล้วบัญญัติกระบวนท่า 1 ขึ้นมาด้วยความเชื่อมั่นว่า
“มิว่าค่ายสำนักใดล้วนไม่มี”
นางเพียงขอให้มันช่วยย้ำยืนยันว่า กระบวนท่านั้นเป็นกระบวนที่มิอาจ “ต้าน” ได้จริงหรือไม่
“กระบี่ของท่านอยู่ที่ใด” มันถาม
พลันประกายกระบี่ก็สว่างวาบ
กระบี่ยาวของดรุณีน้อยภายใต้อาภรณ์ดำแทงเข้าที่เบื้องหน้า ห่างปลายเท้ามัน
ราว 3 นิ้ว ดูธรรมดาสามัญแต่กลับร้ายกาจยิ่ง
“ข้าพเจ้าหากไม่แยแสต่อกระบวนท่านี้เลยกระบี่นี้ก็จะแทงสวนจากเบื้องล่างขึ้นมาในบัดดล แต่จากกระบี่ที่แทงมาจากแง่มุมนี้ไม่ทราบว่าควรจะปัดป้องเยี่ยงไร”
เนื่องเพราะจุดที่นางแทงนับว่าเป็น “มุมตาย”
จากการเนรมิตของ “โกวเล้ง” ผ่านยุทธนิยายเรื่อง “นักสู้ผู้พิชิต” ดรุณีน้อยแห่งหอดารารายอ้างว่า นางเป็นผู้ “บัญญัติ” กระบวนท่านี้ขึ้น
คำอธิบายของนาง คือ
“มิว่าเป็นใต้ฝ่าเท้าของผู้ใดล้วนเป็นมุมตายของคนผู้นั้น และกระบวนท่าอันแทงจากมุมตายนี้ก็คือกระบวนท่าที่ไม่มีค่ายสำนักทั้งหลายในแผ่นดิน มันจึงเป็นกระบวนท่าที่ไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานปัดป้องได้ ความยอดเยี่ยมในกระบวนท่า คือ ต้องจับตัวเองเข้าอยู่ในมุมอับเสียก่อน”
คำอธิบายของ “ดรุณีน้อยแห่งหอดาราราย” ก็คือ คำอธิบายของ “โกวเล้ง” เจ้าของยุทธนิยายเรื่อง “นักสู้ผู้พิชิต” นั่นเอง
นี่คือกระบวนท่า “จับตัวเองเข้าอยู่ในที่อับจนแล้วฟื้นคืนชีพ”
คล้ายกับเป็นของ “โกวเล้ง” คล้ายกับเป็นของ “ดรุณีน้อยแห่งหอดาราราย” ผู้ดำรงอยู่ภายในวังวารีบริสุทธิ์
ไม่ใช่หรอก
นี่กลับเป็นกลยุทธ์อันมาจากสมองก้อนโตของ “หานซิ่น” ขุนพลอันเกรียงไกรผู้มีส่วนร่วมในการสถาปนาราชวงศ์ฮั่นกับ “เล่าปัง” ต่างหาก
บางทีกลยุทธ์อัน “หานซิ่น” คิดขึ้นในยุคสัประยุทธ์กับ “ฌ้อปาอ๋อง” หลังสิ้นราชวงศ์ฉินอาจละม้ายเหมือนกับที่ “วัดพระธรรมกาย” กำลังทำตัวเอง
นั่นก็คือ ถูกรุกไล่จาก “ดีเอสไอ” ถูกรุกไล่จาก “ตำรวจ”
เข้าสู่มุมอับ ณ สำนักวัดพระธรรมกาย อาศัยเพียงความเร้นลับที่มีอยู่เป็นเครื่องมือเดียวในการสัประยุทธ์
ที่หวังจะเข้าสู่ “มุมอับ” แล้วกลับ “คืนชีพ” อาจไม่เป็นไปตามนั้น