เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง 14 ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคใต้ ใจความว่า เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในระยะต่อไป เพื่อให้การปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัย และพื้นที่เสี่ยงภัย สามารถลดผลกระทบ ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทุกพื้นที่ จึงขอให้แนวทางการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 1.การกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการให้ชัดเจน โดยให้แบ่งเป็นพื้นที่กำลังประสบภัย พื้นที่เสี่ยงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ และพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบระยะยาว โดยให้ระบุสถานที่เป็นอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ครัวเรือน ให้ชัดเจน
2. กำหนดวิธีการช่วยเหลือหรือบรรเทาภัยให้เหมาะสมตามสภาพข้อเท็จจริงของพื้นที่เกิดเหตุและจะต้องสอดคล้องกับศักยภาพของทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่ เช่น พื้นที่ราบเชิงเขาต้องเตรียมอุปกรณ์ เครื่องจักรกล ชุดกู้ภัยค้นหาช่วยเหลือกรณีน้ำป่าไหล ดินโคลนถล่มพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำหรือริมชายฝั่งทะเลต้องเตรียมเรือ ชุดกู้ชีพกู้ภัยทางน้ำ ทางทะเล พื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญต้องเตรียมจัดหากระสอบทราบ เครื่องสูบน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม และระบายน้ำออกจากพื้นที่ เป็นต้น
3 กำหนดพื้นที่ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยใช้รูปแบบการบูรณาการกับทุกภาคส่วน (ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ อาสาสมัคร) และกำหนดผู้รับผิดชอบในการประสานการปฏิบัติแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อลดความซ้ำซ้อน สามารถให้ความช่วยเหลือ การแจกจ่ายและเยียวยาผู้ประสบภัยได้อย่างทั่วถึง ถูกต้องตามข้อเท็จจริงและความต้องการของประชาชนในพื้นที่
4 กำหนดหน่วยงานรับผิดชอบและประเด็นการรายงานสถานการณ์ การแก้ไขปัญหาการให้ความช่วยเหลือ แนวโน้มสถานการณ์ และการเตรียมความพร้อมรับมือให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางทุก 3 ชั่วโมง เพื่อให้ส่วนกลางทราบข้อเท็จจริงในลักษณะของการปฏิบัติงานในพื้นที่ สามารถสั่งการและสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ได้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์
5 กำหนดผู้รับผิดชอบในการให้ข้อมูลข่าวสารต่อสื่อมวลชนและสาธารณชนให้ชัดเจน โดยให้มีการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง ทุกระยะ เพื่อสร้างความถูกต้องและเป็นเอกภาพด้านข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริงป้องกันปัญหาการร้องเรียนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการลดความตื่นตระหนก และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประสบภัยและประชาชนในพื้นที่
6 เน้นย้ำผู้อำนวยการอำเภอ ผู้อำนวยการท้องถิ่น ให้ความสำคัญในการเข้าไปยังพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์เป็นประจำและบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นให้กับผู้ประสบภัยตลอดจนสามารถประเมินสถานการณ์และแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงาน
