‘วีระ’ยกปธน.อินโดฯใช้ชีวิตพอเพียงของจริง เหน็บบิ๊กคสช. อ้างพอเพียง แต่ผลาญภาษีปชช.

“วีระ สมความคิด” โพสต์เหน็บ คสช. ยกครอบครัวประธานาธิบดีอินโดนีเซียต้นแบบใช้ชีวิตพอเพียง

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) โพสต์เฟซบุ๊ก ชื่นชมประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นผู้นำในฝันที่ประชาชนต้องการ เป็นแบบอย่างของการใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างแท้จริง ในขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีผู้นำประเทศที่ประชาชนต้องการเช่นนี้ ทั้งที่เป็นประเทศต้นแบบของระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง บิ๊ก คสช.ของไทยล้วนแล้วแต่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย ล้างผลาญเงินภาษีของประชาชน

สำหรับโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของอินโดนีเซีย อายุเพียง 55 ปี ใช้เวลาเพียงแค่ 10 ปีเริ่มจากการเป็นนายกเทศมนตรีในเมืองที่เป็นบ้านเกิดคือเมืองโซโล และก้าวขึ้นมาเป็น ประธานาธิบดีคนที่ 7 ของอินโดนีเซีย ได้โดยการเลือกตั้ง เอาชนะทั้งทหารที่มีอำนาจมาตลอดและนักการเมืองเก่าที่เคยมีฐานเสียง จากผลงานในการเป็นผู้ว่าฯกรุงจาการ์ตา เพียง 2 ปีประชาชนก็เรียกร้องให้มาลงสมัครเป็นประธานาธิบดี

โจโควี่ เป็นคนเรียบง่ายติดดิน เช่นเสื้อผ้าที่ใส่ไปทำงาน ทุกวันถ้าหากไม่ต้องใส่สูท เขาจะใส่กางเกงสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาวล้วน หรือเสื้อผ้าบาติก ไม่ใช้ของหรูหราแบรนด์เนม สตรีหมายเลข 1 ของอินโดนีเซียก็แต่งตัวเรียบง่าย เสื้อผ้าของนางอิเรียน่า วิโดโด นั้นหาซื้อได้ตามตลาดพื้นเมืองทั่วไป อาหารการกินก็เรียบง่ายเพราะอาหารหลักของโจโควี่คือ เท็มเป หรือถั่วเหลืองหมักเป็นก้อน ซึ่งเป็นอาหารหลักราคาถูกของคนอินโดนีเซียทั่วไป ลูกทั้ง 3 ก็กลายเป็นคนเรียบง่ายติดดิน

Advertisement

ลูกชายคนโตที่ทำธุรกิจรับจัดเลี้ยงในเมืองโซโล อายุเพียง 28 ปี ทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง และมีจริยธรรมทางธุรกิจมากพอที่จะประกาศไม่รับจัดงานให้สำนักงานเทศบาลเมืองโซโล เพื่อป้องกันคำครหาเรื่องการใช้เส้นสายของพ่อเข้าไปรับงาน

ลูกชายคนเล็กของครอบครัวเพิ่งได้รับประกาศนียบัตรจากโรงเรียนในสิงคโปร์ บอกว่า การเดินทางส่วนใหญ่ของเขาในสิงคโปร์ก็คือการนั่งรถโดยสารประจำทางหรือรถบัส เพราะค่าโดยสารถูกกว่าการนั่งรถไฟใต้ดิน เพราะเงินที่พ่อแม่ให้มามีจำนวนจำกัด จึงต้องประหยัดไว้ก่อน

ลูกชายคนเล็กแทนที่จะไปคุยโม้อวดเบ่งว่าพ่อของตัวเองเป็นใคร ใหญ่แค่ไหนในอินโดนีเซีย แต่เขากลับบอกคนอื่นๆ ว่า พ่อของผมเป็นนักธุรกิจธรรมดาๆ ความลับมาแตกก็ตอนที่โรงเรียนจัดงานรับประกาศนียบัตรที่พ่อแม่จะต้องมาร่วมงานนั่นเอง ที่คนทั้งโรงเรียนถึงรู้ว่าเด็กคนนี้มีพ่อเป็นประธานาธิบดี

ตอนที่โจโควี่กับภรรยาเดินทางมาสิงคโปร์เพื่อมาร่วมงานของลูกชายคนเล็ก ได้สร้างความประทับใจให้กับคนทั้งโลกอีกครั้ง ด้วยการซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยเงินส่วนตัว และเลือกที่จะเดินทางในชั้นประหยัด ซึ่งโจโควี่นั้นบินในชั้นประหยัดมาโดยตลอดไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใหญ่แค่ไหน

อ่านแล้ว อยากเห็นนักการเมืองแบบนี้ ในบ้านเราบ้างไหม?

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image