เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ธันวาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ร่วมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมวางแผนดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและรุกที่ป่า โดยเป็นการประชุมครั้งที่ 2
โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า การประชุมวันนี้จะได้ข้อสรุปในการเข้าจับกุมหรือไม่นั้น เราจะต้องดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่อัยการสั่งดีเอสไอมา ส่วนที่นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย พยายามนำเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงกับสถาบัน ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เเละทางกองทัพกำลังตรวจสอบอยู่ ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายมาตรา 112 จะมีการดำเนินคดีต่อไป เเต่ในเบื้องต้นยังตรวจสอบไม่พบว่ามีการกระทำผิด
“ที่นายองอาจอ้างว่าการดำเนินคดีกับพระธัมมชโยจะนำไปสู่ความเเตกเเยกของพุทธศาสนา เรื่องดังกล่าว ปอท.กำลังตรวจสอบ การพูดดังกล่าวเข้าข่ายชี้นำ ยุยง ปลุกปั่น เป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะมีการดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า ส่วนจะบุกค้นวัดพระธรรมกายภายใน 1-2 วันนี้หรือไม่ จะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เเต่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะถ้าเราบอกว่าจะบุกเข้าค้นวัดเเต่ถ้าศาลไม่ออกหมายค้นให้ เราก็ไม่สามารถเข้าไปได้ จะไปกำหนดว่าเป็นวันไหนคงเป็นไปไม่ได้ กระบวนการทุกอย่างต้องดำเนินไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องการขอออกหมายค้นวัดพระธรรมกายวันใดนั้น ขึ้นอยู่กับอธิบดีดีเอสไอ ตำรวจเตรียมกำลังไว้พร้อมแล้ว หากดีเอสไอร้องขอกำลังมาก็สามารถดำเนินการได้ทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกลุ่มสมัชชาสงฆ์เถรวาทโลกทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้หยุดการใช้กำลังทหารและอาวุธโดยให้มีการเจรจา จะเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ภาพลักษณ์คือผู้ต้องหาตามหมายจับที่มีการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ไม่สามารถจับกุมได้ ตรงนี้ต่างหากที่ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย เเละขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มเติม โดยคำสั่งล่าสุดของนายกรัฐมนตรีคือให้จับกุมตัวพระธัมมชโยมาดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทำลายศาสนา ตนว่าคนพูดประโยคนี้คือคนทำลายต่างหาก เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ทำอะไร เเค่มีการประชุมเท่านั้น
เมื่อถามว่า กรณีนายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ที่เป็นคนวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศว่าศูนย์ปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกายใน จ.เลย เเละนครราชสีมาเข้าข่ายบุกรุกพื้นที่ป่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญของศาลเเละเคยมีประวัติถูกไล่ออกจากราชการมาก่อน พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า นายวิฑูรย์เป็นคนมีความรู้ความสามารถทำงานมาเกิน 10 ปี ถือเป็นผู้ชำนาญการ การสอบสวนจึงสามารถรับฟังได้ ศาลได้พิจารณาในส่วนนี้เเล้วก็อนุญาตให้ออกหมาย เมื่อถามว่าเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าค้นวัด แต่ประชาชนที่ปักหลักอยู่ในวัดจะเกิดการปะทะจนเกิดการสูญเสียหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ตรงนี้คือปัญหาเพราะเราไม่รู้ว่าจะมีมือที่สามก่อเหตุอะไรหรือไม่ เราต้องเตรียมกองกำลังตำรวจไปเยอะ เนื่องจากทางวัดมีคนเยอะ เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปดูเเลรักษาความปลอดภัยของประชาชน ไม่ใช่เรื่องพิสดารอะไร คนที่สวดมนต์ก็สวดไป ใครขัดขวางต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตนไม่กังวลว่าจะเกิดเรื่องบานปลาย เพราะทำตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าในวันนี้จะได้ข้อสรุปหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า การประชุมวันนี้จะต้องได้ข้อสรุปทุกเรื่องว่าจะบุกวัดพระธรรมกายได้หรือไม่ กำลังเจ้าหน้าที่เท่าไหร่ จะดูเเลประชาชนได้หรือไม่ แต่ขอยืนยันว่ากำลังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปวัดพระธรรมกายจำนวนมากนั้นเราเข้าไปเพื่อดูเเลประชาชน ไม่ใช่ไปมีปัญหากับประชาชน หลังจากการประชุมครั้งเเรกทางตำรวจมีความพร้อมตลอดเวลา เเต่ต้องดูว่าสมควรหรือไม่
เมื่อถามต่อว่า การจับกุมพระธัมมชโยจะยังคงอยู่ในเวลา 3 เดือนหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า การจับกุมสามารถทำได้ภายในอายุความ 15 ปี จะจับตอนไหนก็ได้ ไม่ได้เร่งรีบอะไร ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเเละทรัพย์สินของประชาชนไม่ให้มีปัญหา
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการขอหมายค้น
