นายอโศก อุปัทยา รองเลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวถึงโอกาสการค้า การลงทุนในเอเชียใต้ ว่า ปี 2560 คาดมูลค่าจีดีพีรวมของกลุ่มประเทศเอเชียใต้ ประกอบด้วย อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ และศรีลังกา จะเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยอินเดียจะมีสัดส่วนจีดีพีสูงสุดคิดเป็น 90% ขณะที่การเติบโตจีดีพีต่อปีสูงถึง 6-7% ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำคัญที่นักลงทุนไทย โดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดเล็ก(เอสเอ็มอี) ควรเข้าไปลงทุน และค้าขาย โดยอินเดียเป็นตลาดใหญ่ที่สุดปัจจุบันมีนโยบายเมด อิน อินเดีย มากกว่านำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ดังนั้นการเข้าไปลงทุนจะเหมาะมาก ธุรกิจไทยที่มีโอกาส คือ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้าง ท่องเที่ยว ชิ้นส่วนยานยนต์ อัญมณี ซึ่งปัจจุบันมีเอกชนรายใหญ่ของไทยเข้าไปลงทุนแล้ว อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ไทยซัมมิท พฤกษา อย่างไรก็ตามปัญหาของอินเดียคือ กฎระเบียบของภาครัฐที่เปลี่ยนแปลงบ่อย
ขณะที่ประเทศศรีลังกา แม้ตลาดเล็กแต่จุดเด่นคือ มีนโยบายด้านสิทธิประโยชน์การลงทุนดีมาก อำนวยความสะดวก โปร่งใส สามารถใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี)ส่งสินค้าไปสหภาพยุโรป และล่าสุดกำลังจะได้จีเอสพีพลัส ทำให้โอกาสส่งออกเพิ่มขึ้น ด้านประเทศบังกลาเทศ ได้จีเอสพีแต่กำลังถูกพิจารณายกเลิกเพราะปัญหาแรงงาน อย่างไรก็ตามบังกลาเทศเป็นฐานสำคัญในการผลิตสินค้าเพื่อขายในอินเดีย และปัจจุบันกำลังพัฒนาภาคการก่อสร้าง บ้านพักอาศัยราคาถูกเป็นที่ต้องการ ขณะที่ประเทศปากีสถาน สามารถผลิตสินค้าเพื่อส่งขายประเทศตะวันออกกลาง และประเทศที่แยกตัวจากสหภาพโซเวียต เพราะมีทำเลประเทศใกล้ที่สุด
