โอละพ่อ! พระฮีโร่สู้โจรจนถูกแทงเจ็บ ที่แท้หลวงพี่กุขึ้น ชาวบ้านมึนหนัก ทำเพื่ออะไร?

โอละพ่อ..พระลูกวัดใจเด็ด..สวมวิญญาณนักสู้..ออกอาวุธทั้งเตะทั้งศอก ต่อสู้คนร้าย 3 ต่อ 1 จนถูกฟันมือบาดเจ็บ ขณะที่ 1 ในคนร้ายถูกแทงสวนได้รับบาดเจ็บ ก่อนพากันหิ้วปีกเพื่อนกลับไป สุดท้ายเจ้าหน้าที่เค้นสอบพระที่แจ้งเหตุ สารภาพกุเรื่องขึ้นมาเองทั้งหมด

จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.รัฐพงษ์ พรมมี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้าย 3 คน คลุมหน้าด้วยหมวกไหมพรม พร้อมอาวุธมีด เข้ามาก่อเหตุปล้นภายในกุฏิเจ้าอาวาส เพื่อเอาของมีค่า ซึ่งในขณะนั้นเจ้าอาวาสไม่อยู่ อยู่เพียงพระสมใจ พระลูกวัดเพียงองค์เดียว และเกิดการต่อสู้กันขึ้น ซึ่งคนร้ายใช้อาวุธมีดพยายามทำร้ายพระสมใจ จนได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดฟันที่แขนขวาลึกจนถึงเอ็น แพทย์ต้องเย็บบาดแผลให้ถึง 4 เข็มและที่ใบหน้าก็มีร่องรอยบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายจากสนับมือ ในขณะที่หนึ่งในจำนวนคนร้ายได้ถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ช่วงท้องได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะพากันหลบหนีไปพร้อมของมีค่าที่ได้ไป ส่วนพระสมใจหลังเกิดเหตุได้พยายามโทรหาชาวบ้านให้เข้ามาช่วยและนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ต่อมาวันที่ 10 ธันวคม เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัสกร โพธาราม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์, พ.ต.ท.รัฐพงษ์ พรมมี พนักงานสอบสวน, ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้เข้าสอบปากคำเพิ่มกับพระสมใจ ปิยะวรรโณ อายุ 41 ปี พระลูกวัด วัดป่าจิตราวัลย์ บ.ทนง ต.ตระสง อ.เมือง จังหวัดสุรินทร์ หลังจากที่กลับการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้เข้าเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุเพิ่มที่เกิดเหตุด้วย

โดยพระสมใจ ปิยะวรรโณ พระลูกวัด เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นอาตมากำลังเดินไปร้านค้า ได้ยินเสียงหมาที่วัดเห่า จึงกลับมาและเดินสำรวจรอบกุฏิหลวงพ่อ 2 รอบ ก็ไม่เห็นมีอะไร แต่หมาก็ยังไม่หยุดเห่าอีก เลยเดินรอบที่ 3 พอแหงนดูที่หน้าต่างกุฏิเห็นเปิดอยู่ และเห็นคนร้าย 2 คนโผล่หัวออกมา ก็เลยวิ่งขึ้นไปข้างบนกุฏิ พอถึงระเบียงเห็น 2 คน กระโดดลงมาข้างล่าง จึงได้วิ่งลงตามมาก่อนจะเกิดการต่อสู้กันขึ้น โดยคนร้ายใช้มีดเป็นอาวุธ จำนวน 2 เล่ม ทั้งมีดพกและมีดพับ ระหว่างต่อสู้กันอยู่ช่วงชุลมุน คนร้ายพยายามใช้มีดแทงเข้ามาแต่ไม่ถูก ตนจึงใช้ศอกๆ เข้าไปที่แขนจนมีดหล่น ก่อนจะหยิบมีดที่หล่นแทงสวนปักเข้าไปที่ท้อง จนทำให้คนร้ายถึงกับทรุดนั่งลงกดแผลที่โดนมีดเสียบคาอยู่ ส่วนอีกคนหนึ่งก็กำลังจะเข้ามาฟันตน แต่ว่าฟันไม่ได้ เพราะคนร้ายคนที่ 3 เป็นคนลักษณะขาเป๋ที่อยู่ข้างบนกุฏิ ได้โยนกระเป๋ามาให้รับ จังหวะนั้นตนจึงเข้าแย่งกระเป๋ากับคนร้ายอีก แต่พอดึงกันไปกันมาคนร้ายก็พยายามที่จะฟันตน ตนจึงใช้มือไปปัดมือคนร้ายข้างที่ถือมีดเอาไว้ และเพื่อนที่โดนแทงบาดเจ็บก็พูดขึ้น เป็นภาษาอีสานว่า ฟ่าวเถาะสู กูเจ็บหนัก แล้วมันก็กระซากจนมือตนหลุดจากแขนคนร้าย จากนั้นคนร้ายก็ได้ฟันลงมาที่มือข้างขวาที่ตนจับกระเป๋าไว้ จนกระเป๋าหลุดจากมือ แล้วคนร้ายก็โยนกระเป๋าให้กับคนที่ขาเป๋ถือเดินไปก่อน แล้วก็หันกลับมาหิ้วปีกเพื่อนที่บาดเจ็บออกไป พร้อมพูดทิ้งท้ายว่า กูรอโอกาสนี้มานานแล้ว ส่วนรูปพรรณที่จำได้ก็คือ รอยสักที่ท่อนแขนข้างขวาของคนร้ายที่ถูกแทง เขียนคำว่า พ่อกูให้มา ใช้หมึกสีเขียวความยาวประมาณ 20 ซม. ความกว้าง 1 นิ้ว

Advertisement

ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง ต้องรอเจ้าอาวาสกลับมาจากการไปปฏิบัติธรรมก่อนจึงจะรู้

ล่าสุดวันนี้ (17 ธ.ค. 59) เรื่องราวทั้งหมดกลับตาลปัตร เป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้ออกติดตามสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเค้นสอบพระสมใจ พระลูกวัดที่ต่อสู้กับคนร้าย จนยอมรับสารภาพว่า เป็นคนกุเรื่องขึ้นมาเองทั้งหมด และจัดฉากสร้างเรื่องว่าต่อสู้กับคนร้ายจนได้รับเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปทำการสึกพ้นจากความเป็นพระ ก่อนแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ส่วนทรัพย์สินภายในกุฏิที่เกิดเหตุ ไม่มีสูญหาย ทางด้านเจ้าอาวาสวัดป่าจิตราวัลย์ เจ้าของกุฎิที่เกิดเหตุ ยืนยันกับเจ้าหน้าที่และไม่ติดใจเอาความ จึงไม่ได้แจ้งดำเนินคดีข้อลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้อดีตพระสมใจ ได้ถูกนำตัวไปฝากขัง เพื่อรอส่งศาลตัดสินโทษต่อไป

13

ในขณะเดียวกัน หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คลี่คลายคดีดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านที่บ้านทะนง ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าพระจะกล้าจัดฉากขึ้นมาเอง แต่เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ก็ต้องทำใจ และไม่รู้ว่ามีแรงจูงใจอะไรถึงได้ทำเช่นนี้ ซึ่งชาวบ้านได้นิมนต์มาจำวัดเพียง 3 เดือนก่อนหน้านี้ อีกทั้งทางบ้านฐานะก็ยากจนมาก แต่เมื่อผิดก็ต้องรับกรรมไป และไม่ยากจะช้ำเติมอีก

ด้านนายสุพัฒน์ เสาสูง ผู้ใหญ่บ้านทะนง กล่าวว่า ชาวบ้านได้นิมนต์มาจำวัดเพียง 3 เดือน เนื่องจากทางวัดไม่มีพระน้อย ตามหลักฐานก็น่าจะใช่ พระเป็นคนทำเอง เพราะบุคคลที่พระกล่าวอ้างถึงนั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่ก็พากันสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมต้องกุเรื่องแบบนี้ขึ้นมาด้วย ส่วนชาวบ้านก็ไม่อยากจะอะไรมาก ไม่อยากที่จะซ้ำเติม อยากให้เรื่องจบๆ โดยเร็ว และอีกอย่างก็เห็นใจด้วยเพราะฐานะทางบ้านของพระสมใจค่อนข้างลำบากมาก เพียงแต่อยากทราบถึงแรงจูงใจที่ทำลงไปนั้น สาเหตุเพราะอะไรเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image