วันนี้ (๒๐ ธ.ค.) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๕/๒๕๕๙ เรื่อง ระงับการคัดเลือกบุคคลและการสรรหาเพื่อเสนอชื่อเป็น
กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ระบุว่า
โดยที่ขณะนี้ได้มีการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนขององค์ประกอบคุณสมบัติ กระบวนการได้มา และการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ให้แตกต่างไปจากบทบัญญัติเดิม ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ เมื่อปรากฏว่ามีกรรมการใน กสทช. ด้านกฎหมาย พ้นจากตําแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ จึงเห็นสมควรให้ระงับกระบวนการได้มาซึ่งกรรมการแทนตําแหน่ง ที่ว่างลงไว้ก่อน เพราะการพ้นจากตําแหน่งดังกล่าวแม้จะเป็นเหตุให้ กสทช. มีจํานวนเหลืออยู่เพียงเก้าคน ก็ไม่มีผลกระทบในทางกฎหมายต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. แต่อย่างใด เนื่องจากมาตรา ๒๐ วรรคสาม ได้บัญญัติให้กรรมการที่เหลืออยู่ยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ถือว่า กสทช. ประกอบด้วย กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานภาครัฐและไม่ให้เกิดความสิ้นเปลืองและซ้ําซ้อน ทางด้านงบประมาณ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ระงับการคัดเลือกและสรรหาบุคคลเพื่อเสนอชื่อเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แทนตําแหน่งที่ว่างลง ตามพระราชบัญญัติองค์กร จัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ไว้จนกว่าจะมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงหกคน หรือจนกว่าร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรร คลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. …. ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันก่อนวันที่คําสั่งนี้จะมีผลใช้บังคับ หรือจนกว่าจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน และให้ กสทช. ประกอบด้วย กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ให้นําความในวรรคหนึ่ง มาใช้บังคับกับองค์ประกอบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมด้วย โดยอนุโลม
ข้อ ๒ ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษา ความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้
ข้อ ๓ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาต