เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 ธันวาคม ที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี นายจิรศัก โค้วสุคนธรักษ์ อายุ 40 ปี ชาวอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยภรรยา น.ส.เสริมสกุล ประดับศรี อายุ 34 ปี ได้เดินทางมาแจ้งความกับ พ.ต.ต.ณัฐวรรธน์ เพลินจิตร พนักงานสอบสวน สภ.เสม็ดว่า ได้ซื้อรถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์ด รุ่นเอเวอเรส สีดำ จากโชว์รูมฟอร์ด แห่งหนึ่งใน ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง ในราคา 1,786,000 บาท โดยมี น.ส.เพชรลดา ชินวงษ์พรหม เป็นพนักงานขายของบริษัทดังกล่าว หลังจากนั้นได้จ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คเต็มตามจำนวนเงินที่ซื้อรถและได้ป้ายแดงมาติดรถ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ขับรถมาตลอดเป็นระยะทางกว่า 14,000 กิโลเมตร ช่วงที่ได้รถมาก็ประสานงานกับทางบริษัทที่ขายรถมาตลอดเพื่อขอโอนรถ และขอเปลี่ยนป้ายทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าบริษัทที่ขายรถบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ได้รับการประสานงานจากบริษัทขายรถว่า น.ส.เพชรดา ขายรถแล้วไม่ยอมโอนเงินให้กับบริษัทฯและขอให้เป็นพยานด้วย ซึ่งในความเป็นจริงเมื่อจ่ายเงินครบตามจำนวนแล้ว ทางบริษัทขายรถจะต้องโอนรถให้ ส่วนกรณีตัวแทนที่ขายรถไม่นำเงินส่งบริษัทฯ ถือว่าเป็นเรื่องภายใน จึงได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปร้องเรียนคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายจิรศัก โค้วสุคนธรักษ์ เจ้าของรถและเป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่ารถที่ซื้อมาใช้ยอมรับว่าดี ตัวบริษัทที่ขายรถไม่ดี ไม่มีความรับผิดชอบ ตนซื้อรถด้วยเงินสดแทนที่จะได้เป็นเจ้าของ ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่ากรรมสิทธิ์รถนั้นเป็นของใคร ส่วนพนักงานไม่โอนเงินให้บริษัทถือว่าเป็นเรื่องภายในของบริษัท ช่วงที่ซื้อรถมาได้พยายามติดต่อบริษัทขายรถเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ แต่ก็ผัดผ่อนมาตลอดจนกระทั่งมาทราบข่าวภายหลังว่าพนักงานขายไม่โอนเงินให้บริษัท ทำให้เดือดร้อนมากขับรถไปไหนมาไหนก็ติดป้ายแดง เจอตำรวจก็ขอตรวจตลอดทำให้เสียเวลา จึงต้องมาแจ้งความเพื่อไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
