เมื่อวันที่ 1 มกราคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางทางการเมืองในปี 2560 ว่า ปี2560 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญใหม่ หรือการเลือกตั้งที่จะเดินไปตามโรดแมป การเมืองปี2560 คงเป็นปีที่เราต้องช่วยกันประคับประคองให้สถานการณ์ต่างๆนั้นเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ให้เกิดความเชื่อมั่น และสิ่งที่เราอยากเห็นมากที่สุดสำหรับการเมืองปีหน้าคือการที่ทุกฝ่ายเดินเข้าหาโรดแมปตามที่ได้วางไว้ เพราะนี่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อกลับเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยซึ่งส่วนนี้จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับนักลงทุน และคนไทย โดยจะเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่ายังมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี2560 ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จริงๆแล้วเราอยากร้องขอให้คสช.นั้นดำเนินการตามโรดแมปที่ได้มีการวางไว้ ปัญหาอุปสรรคต่างๆก็ขอให้ช่วยกันประคับประคอง เพราะก็การเลื่อนการเลือกตั้ง หรือเลื่อนโรดแมปมานานแล้ว ที่สำคัญคือเราผ่านมา 2 ปีแล้ว ที่ไม่ได้คืนประชาธิปไตยให้ประชาชน โดยสองปีที่ผ่านมาเราเสียโอกาส เสียอะไรต่างๆไป ก็ไม่อยากให้เสียอะไรไปมากกว่านี้ ถ้าอะไรที่ไม่จำเป็นก็อยากขอให้ช่วยกันประคับประคอง และแก้ไขกันไป แต่หากจำเป็นจริงๆก็ควรมีเหตุผลอันควร หรือเหตุผลอันเหมาะสมในการที่จะชี้แจงมากกว่าการขอเลื่อนเฉยๆ เพราะไม่อย่างนั้นโรดแมปของเราก็จะเลื่อนไปเรื่อยๆ
เมื่อถามว่าหวังว่ารับธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านไปได้ด้วยดีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็ได้ผ่านการทำประชามติไปแล้ว แต่ในการออกกฎหมายต่างๆนั้นก็อยากให้รัฐบาล และสนช.ฟังเสียงประชาชน เพื่อที่จะช่วยกันปรับไปเรื่อยๆ อะไรที่ปรับได้ก็อยากให้ปรับ อะไรที่พอจะทำได้ก็อยากให้พยายามเพื่อให้บ้านเมืองสงบ อย่างไรก็ตาม ตนอยากเห็นการปรองดองเกิดขึ้นอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมา ความหมายคำว่า ปรองดองที่แท้จริง เรายังไม่ได้เห็นจากรัฐบาลชุดนี้ ก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ให้คำว่า ปรองดอง มีความหมายที่แท้จริง เพื่อให้คนไทยเรากลับมามองหน้ากันได้ และมีความสุข
เมื่อถามถึงประเด็นร่างพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ 20 ปี น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นห่วง เพราะการวางแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีนั้นเป็นเรื่องที่ยาก วันนี้ภาวะเศรษฐกิจโลกก็เปลี่ยนแปลงไป เรื่องต่างๆในประเทศก็มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการที่เราจะวางแผน 20 ปี จึงเป็นเรื่องที่ยากฉะนั้นจะต้องมีช่องว่างที่จะให้มีทางออกสำหรับรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ปรับตัวให้ทัน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการที่จะแก้ปัญหาให้ประเทศ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเรามาติดกับข้อกฎหมายของเราจนไม่สามารถที่จะก้าวไปข้างหน้าได้
