ที่กระทรวงการคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบโยบายผู้บริหารกระทรวงการคลัง ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงการคลัง ว่า มอบให้ผู้บริหารกระทรวงการคลังดูใน 3-4 เรื่อง เพื่อทำงานที่ยังค้างอยู่สำเร็จทันก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 1 ปีข้างหน้า ทั้งในเรื่องการดูแลสังคมคนชรา การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เสนอมาตรการเข้าครม.ไปแล้ว อยากให้กระทรวงการคลังเร่งผลักดันให้เดินหน้าเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะมาตามงานว่าทำไปถึงไหนแล้ว
นายสมคิด กล่าวว่า ฝากให้กระทรวงการคลังไปช่วยดูในเรื่อง Negative Income Tax(เงินโอนแก้จนคนขยัน) เป็นนโยบายที่กระทรวงการคลังวางแนวทาง เร่งเสนอรายละเอียดขึ้นมา เพื่อให้การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเป็นระบบและชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นต่อไปจะต้องดูว่าควรให้สวัสดิการอย่างไรให้ตรงจุดมากขึ้น
นายสมคิดกล่าวว่า นอกจากนี้ฝากเรื่องจัดตั้งสถาบันการเงินชุมชน และธนาคารที่ดิน โดยในเรื่องธนาคารที่ดินเป็นแนวคิดของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ไปดูว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยธนาคารที่ดินเกิดขึ้น เพื่อช่วยรักษาที่ดินเกษตรกร จะเป็นลักษณะเดียวกับบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์(เอเอ็มซี) แต่ครั้งนี้จะตั้งเป็นธนาคารเพื่อไปซื้อที่ดินของเกษตรกรที่ยังเป็นหนี้และนำบริหาร โจทย์คือรักษาที่ดินเกษตรกรไว้ทำกิน ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบนั้น จะมีการเปิดตัวโครงการใหญ่ในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้
นายสมคิด กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือการหารายได้ มอบหมายให้กรมสรรพากรและกรมสรรสามิตไปดูว่าจะมีการหารายได้ใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างไรบ้าง เพราะรัฐบาลยังต้องการเงินเพื่อมาใช้จ่ายและในปีงบ 2561 เสนอรายได้ไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาทนั้น มอบไปว่าจะเพิ่มขึ้นกว่านี้หรือไม่
