“อดีตปลัดวธ.” ชี้ตั้งพระสังฆราชต้องไม่มีความด่างพร้อย วอนพระสงฆ์หยุดแสดงอารมย์ต่อสาธารณะ
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ม.ร.ว.จักรรถ จิตพงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม การศาสนา คุณธรรมและจริยธรรม สภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยผลสอบสวนการถือครองรถเบนซ์ที่มีชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วงมีความผิดว่า หากพูดถึงเรื่องของกฎหมาย ประชาชนทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น หรือข้อแม้จะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม รวมถึงพระสงฆ์ด้วย ส่วนการปฏิบัติของท่านจะผิดกฎหมายหรือไม่ ก็ต้องดูว่าท่านได้ทรัพย์สินมาได้อย่างไร หรือมีผู้อื่นนำเข้าผิดกฎหมายแล้วนำมาฝากท่านไว้ ซึ่งท่านก็รับไว้โดยไม่รู้ และไม่ได้ปฏิบัติผิดกฎหมายเอง ซึ่งตรงนี้มีแต่พนักงานสอบสวนเท่านั้นที่ทราบ แต่ประชาชนทั่วไปไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ในทางพุทธศาสนา พระสงฆ์ทุกรูปเป็นผู้ทรงความบริสุทธิ์ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นคนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงอย่าพูดบนพื้นฐานของความไม่รู้ แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าปฏิบัติผิดกฎหมายก็ต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด จึงขอเตือนสติทุกคนจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังตนให้ดี อย่าทำอะไรในทางที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามย้ำว่า เมื่อดีเอสไอตัดสินออกมาแบบนี้ถือว่ามีความชอบธรรมที่จะแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราชได้หรือไม่ ม.ร.ว.จักรรถกล่าวว่า พระต้องมีความบริสุทธิ์ หรือมีความชอบธรรม 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องไม่มีความด่างพร้อยใดๆ ทั้งสิ้น แต่ใครจะเป็นผู้ตัดสินตรงนี้ว่ามีความผิดจริง ซึ่งก็ต้องดูที่พยานหลักฐานให้รอบคอบ เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการพระเวลานี้จะกระทบต่อภาพรวม ความศรัทธา ของประชาชนหรือไม่ ม.ร.ว.จักรรถกล่าวว่า ขณะนี้ก็กระทบไปทั่วโลก เพราะข่าวเร็วมาก โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่แสดงบทบาทต่อสาธารณะโดยไม่มีความสำรวมมันเสียหายหมดแล้ว เพราะฉะนั้นขอวิงวอนขอให้ยุติการแสดงออกโดยใช้อารมณ์ และความลำเอียงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในคำสอนของพระพุทธศาสนา
