ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างหนักทางภาคใต้ของไทย ผศ.ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี ม.ศิลปากร เจ้าของผลงานหนังสือ ‘พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช มหาสถูปแห่งคาบสมุทรภาคใต้’ โดยสำนักพิมพ์เมืองโบราณ และ “วัดร้างในบางกอก” โดยสำนักพิมพ์มติชน กล่าวว่า โบราณสถานทางภาคใต้หลายแห่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อาทิ พระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี วัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึงที่ทำการสำนักศิลปากรที่ 14 ตรงข้ามวัดเพชรจริก ริมคลองสวนหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่เพียงเท่านั้น พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ก็ยังมีน้ำท่วมด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัว เนื่องจากตั้งอยู่บนสันทรายเก่าที่คนโบราณรู้ดีว่าอยู่สูงพ้นระดับน้ำท่วมมาโดยตลอด ดังนั้น การที่น้ำท่วมพระบรมธาตุนครฯในครั้งนี้จึงเป็นสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา
“น่ากลัวเพราะที่ตั้งพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชรวมทั้งสถานที่ที่กล่าวมาเกือบทั้งหมด เป็นสันทรายชายทะเลเก่าที่คนในอดีตรู้ว่าสูงพ้นระดับน้ำหลากท่วมมาตลอด จึงเลือกตั้งถิ่นฐานและสร้างพระมหาสถูปเป็นศูนย์กลางชุมชนเมืองระดับภูมิภาค น้ำท่วมภาคใต้ปีนี้จึงไม่ธรรมดา ปกติ ภาคใต้น้ำไหลเอ่อท่วมรุนแรง เพราะคาบสมุทรแคบ จากเทือกเขาแกนกลางลงมามีแม่น้ำสั้น พื้นที่น้อย ฝนตกหนักน้ำป่าทะลักลงสู่ที่ราบรวดเร็ว ไปสู่ทะเล แต่จากการที่น้ำท่วมรุนแรงจนกระทั่งขึ้นไปถึงสันทรายเมืองนครศรีธรรมราช แสดงว่าต้องมีปัจจัยสำคัญ คือ ฝนชุกมากเป็นพิเศษ ป่าไม้ถูกทำลายจนไม่มีแรงชะลอน้ำ กับอุปสรรคขวางน้ำที่เกิดจากสิ่งก่อสร้างของคนปัจจุบัน เช่น ถนน ทางรถไฟ ชุมชนใหม่ เคยบอกตอนพิมพ์หนังสือเล่มแรกในชีวิตว่า ที่ไหนน้ำท่วม พระบรมธาตุนครศรีธรรมราชจะไม่ท่วม บัดนี้กลายเป็นแค่คำปลิวๆ”
ผศ.ดร.ประภัสสร์ยังกล่าวอีกว่า ตนยังห่วงโบราณสถานที่จังหวัดปัตตานี และสุราษฎร์ธานีด้วยเช่นกัน ซึ่งทราบข่าวว่าพระบรมธาตุไชยาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ด้วย