สัมภาษณ์โดย: Saima Mohsin ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ประจำประเทศไทย
ไม่ใช่ทุกวัน ที่คุณจะได้โทรศัพท์คุยกับอดีตนายกรัฐมนตรีและชวนกันไปเดินช็อปปิ้ง เราขอใช้เวลาติดตามดูภารกิจเธอ 1วันเต็มๆกับ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ผู้ซึ่งถูกวิบากกรรมทางการเมือง การประท้วงและรัฐประหาร และที่นี่ เราพบเธอในซูเปอร์มาเก็ตขณะที่เธอเองมีภาระขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดทั้งปี เรื่องนั้นยังอีกไกล แต่ตรงนี้ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมนั่งสนทนากับเธอ
CNN: เกิดอะไรขึ้นในวันรัฐประหาร? คุณพอจะเล่าให้เราฟังได้หรือไม่?
ยิ่งลักษณ์: ขณะนั้น ดิฉันอยู่ที่บ้าน หลายคนโทรศัพท์มาบอกดิฉันว่าเกิดรัฐประหาร ตอนแรกดิฉันก็ไม่เชื่อ จึงโทรศัพท์ตรวจสอบไปและพบว่า รัฐมนตรีในรัฐบาลของดิฉันและหัวหน้าฝ่ายตรงข้ามซึ่งกำลังนั่งประชุมเพื่อหาทางออกให้ประเทศถูกทหารจับตัวทั้งหมด
CNN: คุณเองก็ถูกเรียกตัวไปยังกองทัพบกเพื่อ “ปรับทัศนคติ” พอบอกเราได้หรือไม่ว่าพูดคุยอะไรกัน?
ยิ่งลักษณ์: คณะรัฐประหารบอกให้ดิฉันอยู่เงียบๆ เก็บเนื้อเก็บตัว อย่าเคลื่อนไหวทางการเมือง และทหารขอให้ดิฉันอย่าลงพื้นที่พบปะประชาชนสักระยะหนึ่ง และยังขอให้ดิฉันอย่าโพสต์ข้อความใดๆลงเฟซบุ๊กอีกด้วย
CNN: มันคือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ จากผู้หญิงผู้ทรงอิทธิพล 100 คนแรกของโลกจากการจัดลำดับของนิตยสารฟลอร์บ มาเก็บตัวเงียบๆตามลำพัง
ยิ่งลักษณ์: คุณก็ทราบดีว่า เมื่อคุณมีอิสรภาพ สามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้ที่คุณต้องการ แต่วันหนึ่ง คุณไม่สามารถไปไหนได้ ไม่มีใครชอบแน่ๆ
CNN: คุณรู้สึกหรือไม่ว่า คุณควรมีสิทธิในการพูดหรือแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน?
ยิ่งลักษณ์: ดิฉันไม่ได้ขออิสรภาพให้ตัวเอง ดิฉันขอแค่ว่าให้ประชาชนได้อิสรภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ เพื่อผู้มีอำนาจในบ้านเมืองขณะนี้จะได้ยินเสียงประชาชน
CNN: ครอบครัวชินวัตรและพรรคเพื่อไทยเป็นนักการเมืองของประชาชน จึงไม่น่าแปลกใจที่มีมวลชนรากหญ้าคอยให้การสนับสนุนจำนวนมาก และมากพอจนชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่แล้ว แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกัน ที่เมื่อปี 2013 ฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาลนับพันๆได้ประท้วงปิดถนนเรียกร้องให้เธอลาออกอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 7 เดือนเต็ม ขณะนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ถูกฟ้องในคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นโครงการยกระดับราคาข้าวให้สูงขึ้นเพื่อยกระดับชีวิตชาวนา เธอถูกกล่าวหาว่าละเลยปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเธอให้การปฏิเสธ
ยิ่งลักษณ์: ดิฉันคิดว่ามันประหลาด นโยบายมุ่งช่วยเหลือประชาชน ปัญหาที่เกิดหากมีก็อยู่ในระดับปฏิบัติ แต่กลับให้ดิฉันซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบายเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา
CNN: มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่คุณจะลี้ภัยทางการเมือง เหมือนพี่ชาย อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร?
ยิ่งลักษณ์: ดิฉันจะอยู่ต่อสู้คดี ดิฉันมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะต้องสู้ ทุกสายตาที่จับจ้องดิฉัน ดิฉันให้ความมั่นใจได้ว่า ดิฉันไม่เคยคิดแม้แต่จะหนี
