วันที่ 12 มกราคม 2560 นายชาตรี เชื้อมโนชาญ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมระดมความคิดเห็นฟื้นฟูและพัฒนาคลองแม่ข่า ที่เทศบาลนครเชียงใหม่ มี พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 พ.ท.สุทัศน์ รัตนประชารมย์ หัวหน้ากองข่าวมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ นายบุญทา ชัยเลิศ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นายวสันต์ จอมภักดี คณะกรรมการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้นำชุมชน และเครือข่ายเข้าร่วมกว่า 50 คน ซึ่ง
คลองแม่ข่าเป็น 1 ชัยมงคลสร้างเมืองเชียงใหม่ และมีอายุครบ 720 ปี เมื่อปี2559 ตามแผนผลักดันเชียงใหม่ ให้ยูเนสโก้พิจารณาเป็นเมืองมรดกโลก
นายชาตรี กล่าวว่า นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ร่วมกับทุกภาคส่วน ลงพื้นที่ตรวจคลองแม่ข่า พร้อมมีแผนฟื้นฟูอนุรักษ์คลองสายประวัติศาสตร์ โดยใช้งบกว่า 50 ล้านบาท เพื่อขุดลอกคลอง กำจัดผักตบชวา ติดตั้งเครื่องเติมอากาศ ใช้พืชน้ำบำบัดน้ำเสียโดยวิธีธรรมชาติ ปรับภูมิทัศน์ และจ้างชุมชนดูแลตลอดสองฝั่งคลองที่ไหลผ่านเขตเทศบาล กว่า10 ชุมชน รวม 11 กิโลเมตร พร้อมใช้มาตรการทางกฏหมายจับปรับ ผู้ฝ่าฝืนทิ้งขยะและน้ำเสียลงคลอง โดยกำหนดโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท ตามเทศบัญญัติสาธารณสุข
พล.ต.ต.พงษ์เดช กล่าวว่า เชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลกมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีวัฒธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่เข้มแข็ง จึงขอความร่วมมือสถานประกอบการ อาทิ โรงแรม ตลาดสด หอพัก ชุมชนที่ตั้งริมคลองสองฝั่ง มีบ่อบำบัดน้ำเสียทุกหลังคาเรือน ซึ่งเป็นวิธีป้องกันไม่ให้น้ำในคลองเน่าเสียดีที่สุด พร้อมสร้างจิตสำนึก และใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาคลองดังกล่าว อาจเรียกว่าเป็นเทศกาลไถ่บาป ฟื้นฟูคลองให้กลับมาดังเดิมและเป็นต้นแบบแหล่งศึกษาดูงานทั่วประเทศ
“เบื้องต้นขอความร่วมมือช่วยกันดูแลรักษาคลอง พร้อมขอคืนพื้นที่บุกรุกชายตลิ่ง และเข้มงวดใช้มาตรการทางกฏหมายปราบปราม ผู้ที่ทิ้งขยะและน้ำเสียลงคลอง ควบคู่กับการขุดลองตะกอนดินที่ทับถมใต้น้ำ เพื่อลดกลิ่นเน่าเสีย พร้อมส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เพื่อผลักดันเป็นมรดกโลก และฝันให้เชียงใหม่เป็นเมืองพิเศษ เช่นเดียวกับกรุงเทพ หรือพัทยาเพื่อบริหารจัดการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ” พล.ต.ต.พงษ์เดช กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลได้เสนอแผนฟื้นฟูและพัฒนาคลองแม่ข่า 4จุด คือ จุดแรก บริเวณหลังโรงพยาบาลเซ็นต์ปีเตอร์ จุดสอง บริเวณแจ่งศรีภูมิ จุดสาม ชุมชนชมภูช้างม่อย จุดสี่ บริเวณสะพานศรีดอนไชย เนื่องจากสองฝ้่งคลองมีความกว้าง 3-4 เมตร โดยให้ชุมชนทำแพดักขยะ ปลูกพืชน้ำดูดซับของเสีย ติดตั้งเครื่องเติมอากาศ ปลูกต้นไม้ และปรับภูมิทัศน์
เพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินและจักรยานในอนาคต พร้อมกันแนวเขตตลอดสาย