วันที่ 13 มกราคม 2560 ที่ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ผู้ต้องหาจากการแชร์ข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 112 นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” สมาชิกขบวนการพลเมืองโต้กลับ นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ประธานกรรมการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย พร้อมด้วยกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ สมาชิกเครือข่ายแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ซึ่งเป็นเครือข่ายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รวมถึงกลุ่มที่นายจตุภัทร เคยร่วมเคลื่อนไหวและประชาชนที่ติดตามข่าวคราว กว่า 50 คน ร่วมเดินทางเข้าให้กำลังใจนายจตุภัทร พร้อมเรียกร้องให้ศาลจังหวัดขอนแก่น พิจารณาปล่อยตัวนายจตุภัทร หลังถูกควบคุมตัวภายในเรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น โดยมี พ.ท.พิทักษ์ ชูศรี ผู้บังคับกองร้อยรักษาความสงบจังหวัดขอนแก่น มทบ. 23 และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ยืนเฝ้าติดตามสถานการณ์
การเข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจไผ่ครั้งนี้ ทางทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ได้จัดให้กลุ่มเพื่อนๆเข้าเยี่ยมได้ครั้งละ 5 คน และสามารถพูดคุยกันได้เป็นไม่เกินครั้งละ 20 นาที และในระหว่างที่รอเข้าให้กำลังใจไผ่ กลุ่มที่เข้าเยี่ยมทั้งหมด ก็ได้มีการชูป้ายเรียกร้องขอให้ปล่อยตัวไผ่ เป็นข้อความ ขนาด 2 เมตร โดยเขียนข้อความว่า สิทธิประกันตัว คือ สิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน # ปล่อยไผ่ และยังมีข้อความใส่ป้ายเล็กๆเป็นภาษาอังกฤษ ใส่กระดาษขนาด A 4 อีกว่า FreePai และ และข้อความภาษาไทย ในกระดาษ ขนาด A 4 อีกว่า ปล่อยไผ่ และยังมีการนำเอาข้าวหลามทีอยู่ในกระบอกไม้ไผ่มาชูเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนตัวของไผ่ ซึ่งการชูป้ายและการชูกระบอกข้าวหลาม นั้นเป็นไปอย่างสงบและเรียบร้อย และใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5 นาที ก็เก็บทั้งป้ายและกระบอกข้าวหลาม และกลุ่มต่างๆ ก็ต่างเปลี่ยนกันเข้าพูดคุยเพื่อให้กำลังใจกับพ่อของไผ่ตลอดเวลาที่อยู่ระหว่างการรอเข้าเยี่ยมไผ่
นายวิบูลย์ กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมและให้กำลังใจไผ่และมีพี่น้องมาจากหลายๆที่ มาร่วมกันให้กำลังใจไผ่ แต่ที่พ่อห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเรื่องการการรักษาสถานภาพการเป็นนักศึกษาและการเรียนของไผ่ ซึ่งไผ่เหลือสอบเพียงวิชาเดียวก็จะจบการศึกษาโดยสมบูรณ์ โดยขณะนี้กำลังเดินเรื่องขอให้ทางมหาวิทยาลัยออกใบรับรองให้ว่าทางมหาวิทยาลัยได้มีการสอบจริง ซึ่งไผ่จะต้องมีการได้สอบคอมพิวเตอร์ตามที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้แล้ว ภายในช่วงประมาณ วันที่ 18 – 19 ม.ค. 2560 นี้ เพื่อมายื่นขอกับทางศาล ขอประกันตัวให้ไผ่ได้ออกมาทำการสอบ ทางมหาวิทยาลัยก็ได้บอกกับทางแม่มาว่าต้องมีคำสั่งศาลมาจึงจะทำได้ตามคำสั่งของศาลได้ เราก็จะได้หาแนวทางอีกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งตอนนี้ไผ่นั้นผ่านทุกวิชาแล้ว ยังเหลือเหลืออยู่แค่วิชาเดียว คือคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นวิชาที่สำคัญมาก ถ้าไม่ผ่านวิชานี้ก็ไม่สามารถจบการศึกษาได้เลย จะยื่นขอความจำเป็นเฉพาะหน้าเพื่อขออนุญาตศาล อนุญาตให้ไผ่ไปสอบ นี่คือประเด็นหลักที่จะต้องทำให้เร็วที่สุด
ด้านนายสิรวิชญ์ กล่าวว่า วันนี้ก็ได้พาเพื่อนๆเดินทางมาให้กำลังใจไผ่ เพราะไผ่เองก็ถูกควบคุมตัวมาเกือบ 20 วันแล้ว ผมก็เลยรวบรวมและนัดหมายเพื่อนๆมาทางรถไฟ เพราะทางรถไฟจะสามารถชักชวนกันมาพร้อมกันได้มาก ก็ตั้งใจเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจไผ่และจะบอกไผ่ว่ายังมีกำลังใจให้ไผ่ที่อยู่ข้างนอกอีกมากที่คอยส่งกำลังใจให้กับไผ่ วันนี้ที่เรามาเราไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ก็มาคอยดูแลอยู่และทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากให้แสดงเชิงสัญลักษณ์อะไรมากนัก โดยเบื้องต้นก็จะเป็นการถือป้ายเรียกร้องให้ปล่อยไผ่ แต่ที่สำคัญก็จะมาให้กำลังใจ เพราะการมาขอนแก่นครั้งนี้เรามาก็ไม่ต้องการคดีเพิ่มกลับไปอีก และยังได้นำข้าวหลามมาด้วยนั้น เราถือเป็นตัวแทนของกระบอกไผ่ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แทนตัวของไผ่
นายสิรวิชญ์ยังได้กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมไผ่ว่า ตนได้เข้าเยี่ยมและได้พูดคุยกับทางไผ่ ก็ได้บอกกับไผ่ว่าเราเดินทางมาให้กำลังใจไผ่จากกรุงเทพและเดินทางด้วยรถไฟจำนวน 20 คน และยังมีมาสมทบจากทางอื่นอีก 20 คน และจะรอไผ่อยู่ข้างนอก ซึ่งไผ่พอทราบว่ามีกำลังใจจากเพื่อนๆมาเยี่ยมและให้กำลังใจไผ่ ก็ทำให้ไผ่มีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นจากเดิม และยังฝากขอบคุณทุกคนที่มาเยี่ยม ซึ่งวันนี้นั้นตนไม่สามารถคุยกับไผ่ได้เยอะเนื่องจากคนที่รอเยี่ยมไผ่อีกหลายคน จึงต้องให้คนอื่นได้พูดคุยและให้กำลังใจไผ่อีกด้วย
ขณะที่นางสาวพรเพ็ญ กล่าวว่า วันนี้มาเป็นตัวแทนขององค์กรสมาชิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ในฐานะประธานองค์กร ได้มาเป็นตัวแทนที่จะส่งสารส่งข้อมูลทั่วโลก เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวไผ่โดยไม่มีเงื่อนไข และให้ไผ่ได้เข้าสู่การสู้คดีอย่างเป็นธรรม วันนี้จึงเข้ามาเยี่ยมไผ่และมาให้กำลังใจ มาแสดงความห่วงและกังวลเรื่องการควบคุมตัวโดยที่ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากที่ครอบครัวและทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความกังวลในเรื่องของการที่คำร้องเป็นเรื่องของการศึกษาของเยาวชน เลยคิดว่ามีความสำคัญที่อยากจะให้กระบวนการยุติธรรม เห็นว่าบทบาทของนักสิทธิมนุษยชน หน้าที่จะได้รับการส่งเสริม และกระบวนการยุติธรรมเข้าใจว่าครอบครัวและตัวไผ่เองก็เคารพ แต่ยังมีเงื่อนไขที่ว่าเขาเป็นนักศึกษา และอยู่ในช่วงปีสุดท้ายถ้าไม่ได้รับโอกาส การศึกษาที่ผ่านมาทั้งหมดเข้าใจว่าจะสิ้นสุดลง อยากให้ไผ่ได้รับการประกันตัวให้ออกไปสอบ หรืออาจจะเป็นการประกันตัวเพื่อสู้คดีซึ่งก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
ส่วนพ.ท.พิทักษ์ กล่าวว่า วันนี้มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับกลุ่มที่มาให้กำลังใจไผ่ และยังมาคอยมาแนะนำการปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่งกลัวว่าจะมีมือที่สามเข้ามาแทรกแซง หรือเกิดเหตุวุ่นวายหรือเกิดเหตุจลาจล โดยจะทำให้น้องๆมีความผิดเพิ่มขึ้น ซึ่งทางทหารไม่อยากให้ประชาชนต้องเดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีก อยากให้เป็นการมาเยี่ยมญาติมาให้กำลังใจและเพื่อให้อยู่ในกรอบของกฏหมาย ซึ่งตรงนี้เป็นพื้นที่ของทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น และคดีนี้เป็นคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นค่อนข้างจะมีโทษ และผมก็ไม่อยากให้ใครมีความผิดเพิ่ม จึงมาคอยดูแลและหากช่วยได้ก็จะแนะนำ
