ปชช.จูงลูกหลานสักการะพระบรมศพ เด็กๆ เผยอยากมากราบในหลวง ร.9 พร้อมน้อมนำคำสอนมาปรับใช้

เมื่อวันที่ 14 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ว่าตลอดทั้งวันประชาชนจากทั่วประเทศ ต่างทยอยเดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น และต่างจูงมือบุตรหลานมาเข้าคิวสักการะพระบรมศพเนื่องในวันเด็กแห่งชาติมากกว่าทุกวัน

นางสุภาพิน กาละเวก อายุ 55 ปี ที่พาหลานสาวและเด็กๆ ในอำเภอ 10 คนมาร่วมสักการะพระบรมศพ แทนการพาไปเที่ยวงานวันเด็ก เพราะอยากให้หลานได้ซึมซับถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.9 โดยหลานสาว ด.ญ.กชนิภา จันทร์แจ่ม อายุ 8 ขวบ ชั้นป.2 โรงเรียนราษฎร์ร่วมสามัคคี จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า มาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก อยากมาที่นี่มากกว่าไปงานวันเด็ก เพราะอยากมาอยู่ใกล้ๆ ในหลวง ร.9 รู้สึกภูมิใจและตื่นเต้นมาก เคยเห็นพระองค์แต่ในทีวี และที่คุณครูสอนให้รู้จักความพอเพียง นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสแปรอักษรกับโรงเรียนเป็นเลข 9 รู้สึกภูมิใจมาก

สุภาพิน กาละเวก-กชนิภา จันทร์แจ่ม

นางสาวสุภาวรรณ ใจทัน อายุ 16 ปี ชั้นม.5 โรงเรียนสตรีนครสวรรค์ กล่าวว่า มาจากนครสวรรค์กับคณะผู้ใหญ่ในชุมชนตั้งแต่ 3 ทุ่ม มาเข้าคิวเวลาตี 2 แม้จะใช้เวลานานแต่ก็ไม่ท้อ วันนี้มากราบสักการะเป็นครั้งที่ 3 แล้ว อยากมาอยู่ใกล้ๆ เพราะพ่อหลวงเป็นแรงบันดาลใจ พระองค์ทำทุกอย่างเพื่อคนไทยทุกคน อย่างวันเด็กไม่ใช่วันของเราต่อไปแล้ว เพราะรู้สึกโตเกินกว่าจะไปเที่ยวงานต่างๆ จึงมากราบสักการะดีกว่า เมื่อมาแล้วก็รู้สึกภูมิใจ แม้ว่าเกิดมาจะไม่เคยได้เห็นพระองค์ แต่คำสอนของพระองค์ก็ยังอยู่ และจะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ประหยัด อดออม รวมทั้งการมีน้ำใจนักกีฬา มาประยุกต์ใช้ เนื่องจากตนเป็นนักกีฬาฟุตบอล แฮนด์บอล เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญของคนเล่นกีฬา

สุภาวรรณ
สุภาวรรณ ใจทัน

ด้านครอบครัวพุ่มสวัสดิ์ที่เดินทางจาก จ.ขอนแก่นเวลา 22.00 น. โดยเข้าต่อคิวตั้งแต่เวลาตี 4 นางมยุรี พุ่มสวัสดิ์ อายุ 70 ปี อดีตข้าราชการกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 แล้ว มากราบสักการะครั้งนี้ก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นเหมือนครั้งแรก เพราะรักพระองค์มาก เมื่อตอนสอบเข้าราชการฝันเห็นพระองค์ทรงมาเรียกให้เข้าไปทำงานในวัง และปรากฏว่าสอบผ่าน ตั้งแต่นั้นมาจึงตั้งใจทำงานถวายพระองค์มาตลอด มีโอกาสได้ทำงานมีส่วนในการสร้างเขื่อนแก่งกระจานที่ปราณบุรี ทำแล้วได้ช่วยเกษตรกรก็รู้สึกภูมิใจ ในฐานะข้าราชการก็ยึดหลักซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง ปิดทองหลังพระ โดยมีในหลวง ร.9 เป็นต้นแบบ และสอนลูกหลานต่อไป ให้เป็นคนดี ทำเพื่อคนอื่นแม้ว่าจะไม่มีใครเห็นก็ตาม ดั่งที่พระองค์สอนไว้

Advertisement

นายรังสิโรจน์ พุ่มสวัสดิ์ เล่าว่า ด้วยอาชีพข้าราชการสังกัดหน่วยงานส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งเป็นงานที่ต้องดูแลเกษตรกรโดยตรง จึงยึดการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่าง เพราะพระองค์ทรงให้ความสำคัญและเน้นการดูแลเกษตรกรเพื่อให้มีชีวิตอยู่ดีกินดี ขณะเดียวกันการดำเนินชีวิตในครอบครัวของตัวเองก็ได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง เช่นการทำเกษตรผสมผสานการเลี้ยงสัตว์ในครัวเรือนด้วย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
ครอบครัวพุ่มสวัสดิ์ จากซ้าย มยุรี-รังสิโรจน์-ภัทราภรณ์-มะลิวัน-ศศิกานต์

เช่นเดียวกับ นางมะลิวัน ภรรยา ซึ่งรับราชการในตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่เภสัชกรรม เล่าว่าได้น้อมนำเอาหลักการทำงานด้วยความตั้งใจที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสอนไว้มาใช้ในการทำงานไม่เพียงแค่ทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังต้องตั้งใจทำให้สำเร็จอีกด้วย

ด.ญ.ศศิกานต์ พุ่มสวัสดิ์ ชั้นป.6 โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาบ้านไผ่ เล่าว่า เคยได้ไปเที่ยวโครงการชั่งหัวมันในพระราชดำริ ได้เห็นต้นไม้ กังหันปั่นไฟ และโคนม ทำให้ทราบว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสียสละเพื่อประชาชน และทำงานอีกหลายโครงการไม่เคยทิ้งประชาชน

Advertisement

ด.ญ.ภัทราภรณ์ พุ่มสวัสดิ์ ชั้น ม.2 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน กล่าวว่า วันนี้มากราบสักการะพระบรมศพกับครอบครัวเป็นครั้งแรก ถือเป็นความภูมิใจ เพราะที่ผ่านมาได้แต่กราบสักการะพระบรมรูปที่โรงเรียน รักในหลวงร.9 มาก และประทับใจในหลักคำสอนต่างๆ อย่างหลัก 9 คำสอนของในหลวง ที่มีข้อหนึ่งกล่าวว่าให้ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง และยังได้เรียนรู้เรื่องโครงการกังหันชัยพัฒนา ที่จะช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำ บำบัดน้ำเสีย เป็นสิ่งที่ประทับใจเพราะครอบครัวเป็นเกษตรกร เวลาเลี้ยงปลาจะได้ไม่ต้องหาที่ใหม่ๆ หรือเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ นอกจากนี้ยังประทับใจที่พระองค์ทรงคิดค้นและประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ เป็นนวัตกรรมดีๆ เพื่อชีวิตดีของคนไทย จึงอยากมาสักการะพระบรมศพสักครั้ง

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 13 มกราคม หลังสำนักพระราชวังปิดเวลา 22.55 น. จากเดิมในเวลา 21.00น. ว่า มีจำนวน 50,874 คน รวม 74 วัน มี 3,220,428 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,803,645.50 บาท รวม 74 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 264,777,892.34 บาท (หมายเหตุ.- สำนักพระราชวังหักยอดเงินรวมออกไป 100,000บาท เนื่องจากข้อขัดข้องบางประการ)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image