นายกฯ คารวะครูอาวุโส ย้ำศธ.น้อมนำพระราชดำรัส ร.9 มาปฏิบัติ ย้ำครูต้องให้ ‘ความรู้-ประสบการณ์’ แก่เด็ก

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดงานงานวันครู พ.ศ.2560 ครั้งที่ 61 ภายใต้หัวข้อ “พระผู้ทรงเป็นบูรพาจารย์แห่งแผ่นดิน” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ คารวะครูอาวุโส 2 ท่าน ได้แก่ พลตรีหญิงศรีสมร ทังสุบุตร สอนวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 5 และพลตรีหญิงอรพินท์ เพชรพลอย วิชาประวัติศาสตร์ยุโรป ชั้นปีที่ 3 และวิชาประวัติศาสตร์เอเซียตะวันออกไกล ชั้นปีที่ 4 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) และมอบรางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) , ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ, นายพะนอม แก้วกำเนิด, นายถนอม อินทรกำเนิด ,นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร และมูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ และมอบรางวัลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษารับรางวัลคุรุสภา 27 ราย

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่ง ว่า ทราบดีว่าครูเหนื่อยมาก เพราะแม่และภรรยาตนก็เป็นครู ครูสำคัญต่อเด็ก และเด็กต้องรู้ว่าครูสำคัญอย่างไร ดังนั้นทั้งสองฝ่ายต้องปรับตัวเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ครูเปรียบเสมือนแสงสว่าง เป็นพ่อแม่คนที่สองสอนศิษย์ให้เป็นคนดีของสังคม พัฒนาประเทศชาติ และที่สำคัญต้องสอนให้รู้จักความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นตลอดเวลา หากเราไม่พัฒนาก็จะตามใครไม่ทัน ดังนั้นครูไม่เพียงแต่จะให้วิชาความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่ต้องให้ประสบการณ์ ความรู้ทุกอย่าง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ฯลฯ เพื่อให้เด็กสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยเองก็ต้องเตรียมพร้อมให้สมกับศักยภาพที่เราเป็นศูนย์กลางของประเทศอาเซียน อยากให้ทุกคนได้ภูมิใจว่าเรามีทุกอย่างดี

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำรัส ว่า ประเทศต้องอาศัยการพัฒนาทั้งแบบตะวันตก และตะวันออก ที่ผ่านมาเราเน้นพัฒนาทางตะวันตกมาก จนลืมการพัฒนาสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจะน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์มาปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ก็ทรงมีพระราชดำรัสให้น้อมนำพระราชดำรัสและพระราชดำริ ของพระบรมราชชนกมาใช้ในการพัฒนาการศึกษา อีกทั้งยังทรงให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยเฉพาะความมีระเบียบวินัยที่จะทำให้มีความอดทน ไม่สร้างความเดือดร้อน หรือทำการทุจริตอื่น ๆ ซึ่งเหล่านี้ครูต้องสอนให้เด็กเข้าใจและคิดให้ได้ ซึ่งแนวพระราชดำรัส และพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 หลายเรื่องสามารถแก้ปัญหาให้ประเทศได้ อย่างล่าสุด รัฐบาลก็น้อมนำแนวทางพระราชดำรัสหลายเรื่องมาช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้” นายกฯกล่าว และว่า จะเห็นว่าเวลาตนเขียนคำขวัญ จะมีคำว่าชาติอยู่เสมอ เพราะอยากให้คิดถึงประเทศชาติและส่วนรวม ซึ่งผมต้องการให้ครูเป็นผู้ที่จะดึงศักยภาพของเด็ก และครอบครัว ชุมชนออกมาให้มากที่สุด ทุกคนเป็นครูของแผ่นดิน วันนี้ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ต้องไม่ลืมประวัติศาสตร์ที่ดี เราต้องช่วยกันทำให้บุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พัฒนาครูคู่กับนักเรียน ครูต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็ก อย่าให้เด็กใช้โซเชียลในทางที่ไม่ถูกต้อง ต้องตามเด็กให้ทัน ครูต้องนำสิ่งนี้มาเป็นโจทย์ปรับปรุงกระตุ้นการเรียนการสอน ต้องบ่มเพาะขัดเกลา เจียระไนลูกหลานให้เก่ง ดังนั้นครูต้องเก่งทั้งวิชาการ และวิธีการสอน ที่สำคัญคือ ต้องสอนให้ทุกคนมีคุณธรรม ทั้งนี้ตนฝากให้ครูไปคิดเรื่องการปฏิรูปการศึกษาใน 2 อย่างคือ การปฏิรูปภายนอก ที่ต้องสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ร่วมกันคิด ร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็ก และปฏิรูปภายใน ซึ่งจะเป็นเรื่องปรับปรุงโครงสร้าง การแก้ไขหนี้สินครู เป็นต้น

นายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้มุ่งมั่นสนับสนุนครูและบุคลากรทางการศึกษา ปรับปรุงระบบการดูแลครูให้อยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี เรื่องปัญหาหนี้สิน ก็ต้องแก้ไข ทุกคนมีหนี้หมด ตนเองก็มีหนี้ รัฐบาลต้องทำทั้งระบบ การแก้ปัญหาหนี้สินครูอยู่ในใจตนอยู่แล้ว วันนี้มีหนี้หลายอย่างทั้งนอกระบบในระบบ ถ้าวันนี้รวมหนี้ทุกอย่างเข้าด้วยกัน คงจะมากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหลายเท่า

Advertisement

วันครู

วันครู

201701161254114-20110321164346

Advertisement

วันครู

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image