09.00 INDEX ถามตรงจาก สุเทพ เทือกสุบรรณ ถามตรงถึง คสช. ถาม “ประวิตร”

แฟ้มภาพ

พลันที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.ออกมาเสนอบท สรุปในเรื่อง “ปรองดอง” ว่า
“ไม่ใช่เรื่องง่าย”
หาก นายบรรหาร ศิลปอาชา ยังมีชีวิตอยู่ หาก พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ยังมีชีวิตอยู่
ก็ต้องประสานเสียง “เห็นด้วย”
เพราะ 2 คนนี้เคยพยายามมาแล้ว อย่างเต็มพลังและความสามารถ แต่ก็ล้มเหลว
แม้ว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา จะเคยเป็น”นายกรัฐมนตรี”
แม้ว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ จะเคยเป็นเลขาธิการพรรค ประชาธิปัตย์ มีความสนิทสนมกับคนในแวดวงการเมืองทุกกลุ่มทุกสี
ความล้มเหลวของ นายบรรหาร ศิลปอาชา ความล้มเหลวของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ จึงเป็น “บทเรียน”
บทเรียนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รู้เป็นอย่างดี

อย่างน้อยเหตุผลอันรองรับบทสรุปจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็สมควรล้างหูน้อมรับฟัง
1 ต้องตั้งโจทย์จะให้ใครปรองดองกับใคร
“เช่นจะให้ผมไปปรองดองกับนปช. ถามว่าปรองดองกันเรื่องอะไร”
แค่คำถามนี้จาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ยุ่งแล้ว
“ช่วงการชุมนุมของกปปส.เคยชวนนปช.มาร่วมมือกันแก้ปัญหาประเทศ แต่นปช.ไม่ตอบรับ ยังต้องฟังคำสั่งของผู้สั่งการ”
แค่ถามหา “ผู้สั่งการ” ก็ยุ่งแล้ว
และอีก 1 “หากดำเนินการปรองดองจริงผู้ที่จะถูกมอบหมายจะทำงานอย่างไร”
เป็นคำถามโดยตรงไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ขณะเดียวกัน สร้อยสนพลความภายใน “คำถาม”ก็มีลูกกระทบออกไปอย่างกว้างไกล
ล้วนแต่เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะ “ปรองดอง”

ต้องยอมรับว่า กระบวนท่าของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมา
ไม่มีอ้อมค้อม ไม่มีวกวน
ไม่เหมือนกับบางคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงความสงสัยว่า “คู่ขัดแย้ง” เป็นใคร
คล้ายกับไม่เคยรับรู้อะไรมาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
ทุกคำถามจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงทรงความหมาย
โดยเฉพาะความหมายกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะปมเงื่อนอยู่ที่การตีประเด็นว่า
จะปรองดองระหว่างใครกับใคร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image