วันนี้ 18 มกราคม 2560 ความคืบหน้ากรณีกลุ่มพนักงานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เหยื่อนายทุนเงินกู้นอกระบบ หลังรุดเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก แต่ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหานายทุนแต่อย่างใด ล่าสุดเวลา 09.00 น.ทางผู้บริหารโรงพยาบาลหล่มสัก ได้เรียกคณะผู้ช่วยพยาบาลและพนักงานเจ้าหน้าที่ฯกลุ่มลูกหนี้เข้าพบ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจว่าทางผู้บริหารโรงพยาบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและพร้อมจะช่วยแก้ไขปัญหาหรือช่วยไกล่เกลี่ยนายุทนเงินกู้ให้ จากนั้นได้แจ้งให้ทราบว่ามีความจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯที่ออกจากที่ทำงานโดยไม่แจ้งลาหรือแจ้งหัวหน้างานก่อน ซึ่งผิดระเบียบราชการ นอกจากนี้ยังมีผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรอีกด้วย
ด้านกลุ่มพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าว แม้จะแสดงความไม่พอใจก็ตามและพยายามโต้แย้งแต่ก็ไม่เป็นผล จากนั้นทางกลุ่มพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงเสนอให้ผู้บริหารโรงพยาบาลให้รื้อระบบธุรกิจเงินกู้นอกระบบในโรงพยาบาลฯให้หมด เพราะไม่ใช่มีข้าราชการในโรงพยาบาลที่เป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบเพียงรายเดียวเท่านั้น แต่ยังมีข้าราชการรายอื่นๆซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบทั้งรายใหญ่และรายเล็กอีกจำนวนหลายราย โดยแต่ละรายมีการคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือนซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดทั้งสิ้น
ต่อมายังมีรายงานแจ้งเพิ่มว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้บริหารโรงพยาบาลหล่มสักได้เรียกข้าราชการในสังกัดที่เป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบซึ่งมีด้วยกัน 4 ราย และกลุ่มผู้ช่วยพยาบาลและพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่จำนวนราว 30 รายเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมีการแยกห้องประชุมระหว่างกลุ่มนายทุนเจ้าหนี้ กับกลุ่มพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เป็นลูกหนี้ออกจากกัน ผลการเจรจาปรากฎว่าไม่ประสบความสำเร็จโดยทางนายทุนเจ้าหนี้ยืนกรานไม่ยินยอม ส่วนทางกลุ่มลูกหนี้ก็ยืนยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในขณะที่ผู้บริหารและคณะเจรจาก็ยืนกรานจะเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยต่อไป แต่ทั้งนี้มีการขอความร่วมมือให้กลุ่มลูกหนี้งดให้ข่าวกับทางสื่อ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มคณะเจ้าหน้าที่เหยื่อนายทุนฯได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บริหารโรงพยาบาลฯ แต่ถูกท้วงติงว่าเป็นเรื่องส่วนตัวจากนั้นเรื่องไม่มีความคืบหน้า ต่อมาลูกหนี้กลุ่มนี้ราว 50 คนจึงรวมตัวกันเข้าร้องเรียนต่อ พ.ท.เกียรติอุดม นาดี ผบ.ม.พัน.28 อีกครั้ง พร้อมทั้งยังอ้างด้วยว่า มีพนักงานเจ้าหน้านี้กว่า 10 คนที่ตกเป็นเหยื่อของนายทุนเงินกู้เหล่านี้ ต้องหนีหนี้จนถูกให้ออกจากราชการ กระทั่งมีการชงเรื่องนี้เข้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีผลคืบหน้าเช่นกัน อีกทั้งนายทุนรายนี้ยังมีพฤติกรรมทวงหนี้โดยการยึดบัตรเอทีเอ็มของลูกหนี้ไว้ ซึ่งหลังเงินเดือนออกก็จะถูกกดเอาเงินไปหมด ทำให้คณะเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นลูกหนี้เหล่านี้ต่างได้รับความเดือดร้อน รวมถึงใช้ขบวนการทางกฎหมายกดดัน ซึ่งลูกหนี้บางรายอ้างว่า ชดใช้หนี้สินไปหมดแล้วแต่ยังถูกให้ชดใช้อีกจนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจพากันเข้าแจ้งความเพื่อขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
