รองนายกฯประชุม 3 อุทยานปวศ.ดันสู่เวทีโลก เตรียมทำแผนสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ

รองนายกฯประชุม 3 อุทยานประวัติศาสน์ดันสู่เวทีโลก เตรียมทำแผนสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ

เมื่อวันที่ 19 มกราคม เวลาประมาณ 09.30 น. ที่โรงแรมสุโขทัย เฮอร์ริเทจ รีสอร์ท จังหวัดสุโขทัย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร โดยมีข้าราชการระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร น.ส.ดวงกมล ยุทธเสรี ผอ.สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย เป็นต้น

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ผลสรุปของการประชุมในครั้งนี้ คือจะมีการทำแผนแม่บทที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตั้งแต่ 5-20 ปี โดยเน้นให้มีการบูรณาการ เชื่อมโยงกัน มองหาจุดที่เหมือนและแตกต่างของ 3 อุทยานประวัติศาสตร์เพื่อหยิบยกขึ้นมาให้มีความโดดเด่น โดยนอกเหนือจากโบราณสถานแล้ว จะใช้ประเด็นทางวัฒนธรรมเพิ่มคุณค่าให้ชุมชน ไม่ใช่การสร้างสิ่งใหม่ แต่ใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์ มีมูลค่า ส่งเสริมให้คนรักท้องถิ่น ภูมิลำเนาของตัวเอง คาดว่าจะใช้เวลาทำแผนราว 5-6 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม

“อนาคต คาดหวังให้เราอยู่ในเวทีโลก ให้คนเดินทางมาเยี่ยมชมมรดกวัฒนธรรมที่มีคุณค่า แผนแม่บทจะทำใหม่ให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ของชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีทั้งกรมศิลปากร กระทรวงมหาดไทย โยธา ที่ดิน และอื่นๆ จะนำทั้งหมดมารวมกัน แล้วพูดคุย เขียนแผนให้สอดคล้องกัน เช่น ตึกที่จะสร้างใกล้อุทยานฯ ควรมีความสูงได้เท่าไหร่ สร้างได้หรือไม่ ระหว่างที่ทำแผนจะให้ทุกคนดำเนินกิจกรรมของตัวเองไปก่อน อย่างไรก็ตาม ตัวแผนต้องใช้เวลาพอสมควร ราว 5-6 เดือน ซึ่งได้มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานใหญ่ ในอีก 3 เดือน คือ ภายในเดือนเมษายน รมว.จะนำแบบร่างแรกมาให้ดู จากนั้นให้เวลาอีกไม่เกิน 2-3 เดือน จะนำเข้า ครม. และจบภายในเดือนกรกฎาคม การดำเนินงาน จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการกำกับการปฏิบัติงานอีกคณะหนึ่ง ทั้งกำแพงเพชร ศรีสัชนาลัย สุโขทัย โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนอธิบดีกรมศิลปากรเป็นอนุกรรมการด้านวิชาการ เพื่อทำให้ทั้ง 3 ที่เชื่อมโยงกัน วัฒนธรรมพื้นถิ่นคือสิ่งที่จะนำมาชู เช่น ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย และข้าวเปิ๊บ”

Advertisement

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ถือว่าอยู่ในสภาพที่ดีมาก ต่อจากนี้จะมีการนำสายไฟลงดินโดยเริ่มจากเขตอุทยานฯก่อน แล้วค่อยขยายสู่ชุมชนเมืองเก่าซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง ท้องถิ่นต้องช่วยกันรักษา นอกจากนี้ ต้องมีการวางแผนเรื่องการเดินทาง เช่น รถประจำทางจากอุทยานฯ เข้าเมือง รวมถึงถนนหนทางให้มีความเชื่อมโยง และสะดวกสบาย สำหรับปัญหาใหญ่ในช่วงเวลานี้ ยังไม่มี อาจมีประเด็นการบุกรุกโบราณสถานบ้าง แต่แนวทางจะเน้นการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนกับโบราณสถาน และจะต้องทำให้เป็นรูปธรรมให้ได้

“พื้นที่ตรงนี้มีเอกชนช่วยสนับสนุนอยู่ อย่างบางกอกแอร์เวย์ส ทางภาคประชารัฐก็จะต้องดำเนินงาน ทำให้เป็นรูปธรรม กิจกรรมอย่างการขี่จักรยาน ซึ่งตอนนี้มีนีกท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้ความนิยยมาก ต่อไปจะใส่ในปฏิทินของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การเดินทางบางจุดอาจทำให้รวดเร็วขึ้น สายไฟนำลงดินในส่วนที่ทำได้ก่อน ยังไม่ทำทีเดียวทั้งหมดเพราะใช้งบประมาณมาก เท่าที่สัมผัสมั่นใจว่า เราจะสามารถรักษาศิลปะประเพณีและวัฒนธรรมไปได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง” พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image