เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงการดำเนินการหาพยานหลักฐานในคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู ที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุก3ปี2เดือน โดยจำคุกจริง1ปี6เดือน ก่อนได้รับอภัยโทษออกมา และร้องกระทรวงยุติธรรมของให้ช่วยรื้อคดีใหม่ กระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค4มีคำสั่งให้ศาลจังหวัดนครพนม รื้อคดีขึ้นใหม่ และนัดไต่สวนในวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์นี้ ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)กำชับให้ทำคดีนี้อย่างรอบคอบมอบหมาย พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผบ.ตร. ไปกำกับคดีนี้ด้วยตัวเอง อย่างใกล้ชิด วันนี้ จตช.จึงลงพื้นที่ บช.ภ.4 ด้วยตัวเอง การรวบรวมพยานหลักฐานตามที่พบว่ามีขบวนการบิดเบือนเรื่องนี้ อย่างต่อเนื่อง โดยมีหลายประเด็น หลักฐานมีมากพอสมควร ส่วนหนึ่งทยอยส่งให้อัยการและส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่ยังคงสืบสวนสอบสวนต่อ แต่เนื่องจากเรื่องนี้ละเอียดอ่อน ภาคสังคม ประชาชน สื่อมวลชนให้ความสนใจมาก จึงต้องทำอย่างรอบคอบ ตำรวจแสวงหาเก็บรวบรวมหลักฐานแบบคู่ขนาน ส่วนหนึ่งส่งข้อมูลสนับสนุนการแก้ต่างในคดีที่นางจอมทรัพย์ขอรื้อฟื้นคดี อีกส่วนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่จะดำเนินคดีเมื่อไหร่อยู่ที่พยานหลักฐาน และเวลาที่เหมาะสม
รองโฆษกตร. กล่าวถึงการพูดคุยกันระหว่าง ตร. กับ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 20มกราคมนั้น บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ประสานข้อมูลกัน เพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมเรื่องนี้เป็นไปด้วยดี ไม่เกิดความสับสนอย่างที่เป็นอยู่ แม้ต่างยังมีข้อมูลคนละด้าน แต่ก็เดินหน้าไปด้วยกัน ต่างทำหน้าที่ ยืนยันว่าไม่มีการฮั้วกันแน่นอน เป้าหมายคือให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้า ในการพูดคุยกันก็กำชับกันว่าการให้ข้อมูลใดๆต้องระมัดระวังไม่ละเมิดอำนาจศาล ส่วนการหารือร่วมกันอีกครั้งยังไม่กำหนด ตอนนี้ให้ต่างฝ่ายไปทำหน้าที่ หาข้อมูลตามบทบาทของหน่วยงาน โดยย้ำว่าไม่มีความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน
