หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ในวันที่ 21 มกราคม ตามเวลาในสหรัฐ มีการชุมนุมแสดงพลังของกลุ่มต่อต้านทรัมป์ที่หลายเมืองในสหรัฐ รวมถึงตามเมืองต่างๆ ทั่วโลกกว่า 600 จุด ซึ่งปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวหลายล้านคน
เบื้องต้นการประท้วงดังกล่าวเน้นไปที่การแสดงออกถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของสตรี ซึ่งนักเคลื่อนไหวเชื่อว่าตกอยู่ในภัยคุกคามจากรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของทรัมป์ โดยการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งมีผู้ออกมาเข้าร่วมกว่า 500,000 คน ซึ่งมากกว่าที่คณะผู้จัดงาน “Women’s March” ประมาณการไว้เบื้องต้นที่ 200,000 คน ขณะที่บางฝ่ายถึงกับอ้างว่าจำนวนผู้เข้าร่วมการประท้วงมากกว่าผู้มาเข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์หนึ่งวันก่อนหน้า เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมมากกว่าที่คาดการณ์ทำให้แผนการของกลุ่มผู้จัดงานที่จะให้มีการเดินขบวนไปยังทำเนียบขาวไม่สามารถทำได้ เพราะจำนวนผู้ประท้วงที่มากเต็มท้องถนน
ผู้เข้าร่วมการประท้วงมีทั้งนักร้องดังอย่างมาดอนน่า ที่ยอมรับว่าไม่พอใจอย่างมาก จนทำให้คิดร้ายถึงกับจะระเบิดทำเนียบขาว ด้านผู้กำกับคนเก่ง ไมเคิล มัวร์ ก็ขึ้นกล่าวโดยหยิบหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่พาดหัวข่าวว่า “ทรัมป์ขึ้นครองอำนาจ” มาแสดง พร้อมกับประกาศว่า “ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นอย่างที่หนังสือพิมพ์พาดหัว อำนาจอยู่ที่นี่ต่างหาก นี่คือประชาชนส่วนใหญ่ของอเมริกา เราคือเสียงส่วนมาก” นอกจากนี้ยังมีดาราฮอลลีวูดชื่อดัง สการ์เล็ต โจฮันสัน และอเมริกา เฟอร์เรรา ไปจนถึงนักร้องดัง อลิเซีย คีย์ ก็ออกมาร่วมการประท้วงด้วย
ส่วนที่นครชิคาโก มีผู้ประท้วงราว 150,000 คน โดยมีผู้ออกมาร่วมประท้วงจำนวนมากเช่นเดียวกันนี้ ที่ลอสแองเจลิส นิวยอร์ก บอสตัน ซีแอตเทิล ไปจนถึงไมอามี รวมกว่า 300 จุดทั่วสหรัฐ
ขณะที่ผู้จัดงานในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมการประท้วง 80,000-100,000 คน การประท้วงยังเกิดขึ้นที่เมืองคาร์ดีฟ เอดินเบิร์ก ลีดส์ ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ และบริสทอล เช่นเดียวกับที่ในฝรั่งเศส สเปน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ฮังการี เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหลายเมืองในเอเชีย
ด้านทรัมป์ใช้เวลาวันแรกหลังรับตำแหน่งที่สำนักงานใหญ่ของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ หรือซีไอเอ ที่เมืองแลงลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย โดยเขาระบุว่า ไม่มีใครที่จะรู้สึกแรงกล้ากับประชาคมข่าวกรองและซีไอเอเท่ากับเขาอีกแล้ว สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ซีไอเอ 1000% พร้อมกับกล่าวหาสื่อว่าไม่ซื่อสัตย์ในการรายงานจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตนของเขาเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา แต่ไม่พูดถึงการประท้วงต่อต้านขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด