นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นทาง Facebook ในหัวข้อ “ผมก็เป็นแพะเหมือนกัน”
เมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว คสช.ได้ยกกำลังมาควบคุมตัวผมไปปรับทัศนคติเพราะผมแสดงความคิดเห็นที่จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ผมถูกควบคุมตัวที่ มทบ.11 ตั้งแต่วันที่ 18-21 เมษายน 2559 จากนั้น คสช.ได้มอบอำนาจให้ลูกน้องไปแจ้งความกล่าวหาว่า ผมฝ่าฝืนเงื่อนไขตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 39/2557 โดยมีพฤติกรรมคือ (1) ผมเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ (2) ผมมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง และ (3) ผมโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ตั้งข้อกล่าวหาและนำตัวผมไปฝากขังที่ศาลทหาร (ตามโพสต์) แต่จนบัดนี้ก็ยังฟ้องผมไม่ได้
ผมยืนยันว่าเป็นการยัดข้อหาเพราะ (1) ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หรือถ้าเปลี่ยนก็ไม่เป็นความผิด (2) ที่กล่าวหาผมว่ามีการเคลื่อนไหวทางการเมืองเมื่อวันที่ 18 เมษายน คือการที่ผมโพสต์ข้อความก่อนถูกควบคุมตัวว่า “จะเอาผมไปปรับทัศนคติอีกกี่ครั้งผมก็จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนี้” แต่กลับอ้างว่าเป็นการแสดงถึงเจตนาที่จะเคลื่อนไหว และ (3) การโพสต์ข้อความเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ลำพังการโพสต์ข้อความไม่ทำให้ คสช.มีอำนาจนำตัวผมไปควบคุมในค่ายทหารได้ 7 วัน ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 จึงต้องเอาข้อหาเปลี่ยนที่อยู่และการเคลื่อนไหวทางการเมืองมาแถมให้
ผมไม่ได้ต้องการทำลายบรรยากาศปรองดอง เพียงเอาหลักฐานมายืนยันว่ารัฐบาลนี้คือคู่ขัดแย้งและยังทำให้ความขัดแย้งขยายตัวมากขึ้น หากจะปรองดองต้องแก้ไขที่ต้นตอคือรัฐบาลก่อนเป็นลำดับแรก การแก้ตัวและโทษคนอื่นไม่มีทางทำให้เกิดความปรองดองได้ ผมฝากท่าน ผบ.ตร. ให้ดูแลการทำงานของลูกน้องท่านด้วย การตั้งข้อกล่าวหาแบบนี้ผมเห็นว่าผิดกฎหมายเพราะ (1) การเปลี่ยนที่อยู่เป็นสิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ (2) การแสดงเจตนาที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองก็แปลว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหว และ (3) มีบุคคลจำนวนมากที่โพสต์ข้อความที่จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญซึ่งไม่เป็นความผิด แล้วเอามาตั้งเป็นข้อหาดำเนินคดีกับผมได้อย่างไร ผมถือว่าได้ส่งหลักฐานมาให้ท่านดูแล้ว การกล่าวหาแบบนี้คนทำสำนวนก็ผิดส่วนผู้บังคับบัญชาเห็นแล้วไม่ดำเนินการก็ถือว่าละเว้น อย่าให้ผมต้องดำเนินคดีเลย อยู่ข้างประชาชนดีกว่า เพราะเผด็จการอยู่ไม่นานก็เก็บของกลับบ้านแล้ว ในโลกใบนี้ยังไม่มีใครเคยชนะประชาชน
