สถานการณ์ ‘โรคฉี่หนู’ พุ่ง! ภาคใต้ป่วยมากสุดเหตุน้ำท่วม เฉพาะเดือน ม.ค. เสียชีวิต 1 ราย

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคเลปโตสไปโรซิสหรือโรคฉี่หนู ในปี 2559 ทั่วประเทศพบผู้ป่วย 2,275 ราย เสียชีวิต 34 ราย ในภาคใต้มีผู้ป่วย 697 ราย เสียชีวิต 15 ราย โดยจังหวัดในภาคใต้ที่มีผู้ป่วยมากที่สุด 5 อันดับได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง สุราษฎร์ธานี และระนอง สำหรับในปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 1–13 มกราคมที่ผ่านมา ทั่วประเทศมีผู้ป่วย 28 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่วนภาคใต้มีผู้ป่วยแล้ว 10 ราย

“การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคฉี่หนูเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากหลายพื้นที่เริ่มมีน้ำลด ทำให้มีน้ำขังและพื้นที่เปียกชื้น ซึ่งเชื้อโรคดังกล่าวจะปนเปื้อนอยู่ตามน้ำ ดินที่เปียกชื้น หรือพืช ผัก เชื้อสามารถไชเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังตามรอยแผลและรอยขีดข่วน และเยื่อบุของปาก ตา จมูก นอกจากนี้ เชื้อยังสามารถไชเข้าทางผิวหนังปกติที่อ่อนนุ่มเนื่องจากแช่น้ำอยู่นาน คนมักติดเชื้อโดยอ้อมขณะย่ำดินโคลน แช่น้ำท่วมหรือว่ายน้ำ หรืออาจติดโรคโดยตรงจากการสัมผัสเชื้อในปัสสาวะสัตว์หรือเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อ” นพ.เจษฎา กล่าว

อธิบดี คร. กล่าวอีกว่า คร. จึงขอแนะนำวิธีป้องกันตนเองในขณะที่น้ำลด ซึ่งมีปริมาณเชื้ออยู่ในสิ่งแวดล้อมมาก ประชาชนควรใส่รองเท้าบูท หรือสิ่งป้องกันสวมใส่บริเวณเท้า โดยเฉพาะช่วงหลังน้ำลดที่ต้องมีการทำความสะอาดบ้านเรือน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ส่วนอาการที่พบได้บ่อยคือ ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และตาแดง อาการอื่นๆ ได้แก่ อาการเหลืองตัวเหลือง ผื่น จุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอเป็นเลือด ตับโต ม้ามโต เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวและมีประวัติการสัมผัสแหล่งน้ำหรือในพื้นที่หลังน้ำท่วมควรรีบไปพบแพทย์ทันที หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image