เมื่อวันที่ 22 มกราคม ภายหลังการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
นายกฤษดา พรรณกุล อายุ 38 ปี พนักงานสำนักงานสาสาธารณสุข จ.แพร่ ใช้โอกาสที่เดินทางมาสัมมนา พาภรรยา นางวันวิสาข์ พรรณกุล อายุ 37 ปี พร้อมลูก ๆ ด.ญ.บุญฐิตา พรรณกุล อายุ 8 ขวบ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลพะเยา และด.ช. กันต์นที พรรณกุล อายุ 4 ขวบ โรงเรียนไชยพันธงศ์วิทยา เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิต ในพระบรมมหาราชวัง โดย นายกฤษฎา กล่าวว่า ได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดี เพราะเพิ่งผ่านพ้นพิธีสตมวาร (100 วัน) รู้สึกปราบปลื้มใจที่ได้มาสักการะพระองค์พร้อมกับครอบครัว วันนี้ได้กราบสักการะค่อนข้างเร็ว ขณะที่ลูกชายแม้ว่าจะยังเล็ก อุ้มบ้างหรือเดินเองบ้างก็ไม่งอแงแต่อย่างใด
“ผมประทับใจในพระจริยวัตรต่าง ๆ รวมทั้งโครงการในพระราชดำริของของพระองค์ท่านมากกว่า 4,000 กว่าโครงการ อย่างหาที่สุดมิได้ รู้สึกว่าตนเกิดมาโชคดีเกิดในรัชสมัยของพระองค์ท่าน และได้เห็นพระองค์ทรงงานเพื่อประชาชนมากมายไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผมได้ยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างและเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน และจะปฏิบัติตนเป็นคนดีตามรอยพระองค์ท่าน” นายกฤษดา กล่าวด้วยความตื้นตัน
นายกฤษดา กล่าวด้วยว่า ได้ทราบข่าวว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ เพื่อจัดทำบัตรอวยพร ปี 2560 เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ซึ่งหากตนมีโอกาสก็อยากจะร่วมอยากที่จะร่วมสบทบทุนในโอกาสนี้ด้วยและจะร่วมสมทบทุนกับทุกพระองค์หากมีโอกาส ตนจะยังสัมมนาอีก 1 สัปดาห์ที่กรุงเทพฯ น่าจะมีโอกาสที่จะได้ซื้อบัตรอวยพร แต่ผ่านมาตนได้ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือน้ำท่วมกับหน่วยงานที่ทำงานไปแล้วส่วนหนึ่ง
ด้านภรรยา นางวันวิสาข์ ครูโรงเรียนพะเยาวิทยาคม กล่าวน้ำตาคลอว่า ตนประทับใจในพระมหากรุณาทิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงชนชาวไทย ดีใจที่ได้เกิดมาในแผ่นดินในหลวง ร.9 ในฐานะที่เป็นครูก็จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่เป็นข้ารองพระบาทของพระองค์ท่านและเป็นข้าของแผ่นดิน โดยได้สอนเด็ก ๆ ที่โรงเรียนให้เรียนรู้พระราชกรณียกิจต่าง ๆของในหลวง ร.9 เพื่อให้นำไปปฏิบัติ รวมทั้งยังสอนลูก ๆ ที่ยังเล็กรู้เรื่องราวของพระองค์ท่าน แม้ว่าจะยังรับรู้ไม่มากนัก แต่เมื่อเห็นพระบรมฉายาลักษณ์หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ลูกๆ ก็ยกมือไหว้
ด้านครอบครัว ธำรงคุณากร ชาวจ.ชลบุรี ใช้โอกาสวันหยุดสุดสัปดาห์เดินทางมา 3 คน โดยนางสาวดวงสมร ธำรงคุณากร อายุ 36 ปี ข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้เดินทางพร้อมกับคุณแม่ นางอำพร ธำรงคุณากร อายุ 72 ปี และน้องสาว นางสาวดวงเดือน ธำรงคุณากร อายุ 34 ปี ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้เป็นการเดินทางมาครั้งที่ 3 แต่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ เพราะครั้งก่อน ๆ มีประชาชนมารอต่อแถวเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้เดิมจะมาดูสถานการณ์ก่อน แต่ประชาชนรอต่อแถวไม่มากจึงได้ขึ้นกราบพระบรมศพค่อนข้างเร็ว
“ในหลวง ร.9 ทรงทำงานหนักเพื่อประชาชนคนไทย โดยที่ไม่ห่วงพระวรกาย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของคนไทย พระองค์ท่านยังได้เป็นปบบอย่างในการดำเนินชีวิต ใช้ชีวิตพอเพียงพอประมาณ อดออม และทำงานเพื่อส่วนรวม ซี่งตนจะยึดแนวทางของพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตต่อไป” นางสาวดวงสมร กล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีบัตรอวยพร ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ มาจัดพิมพ์เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ซึ่งนางสาวดวงสมร กล่าวว่า ตนจะหาโอกาสไปตามร้านค้าที่วางจำหน่ายเพื่อซื้อบัตรอวยพรเก็บไว้เป็นที่ระลึก และยังได้ถวามเป็นพระราชกุศล รวมทั้งช่วยน้ำท่วมด้วย
นางดวงสมร กล่าวว่า ช่วงปี 2548 ครอบครัวได้เคยรับเสด็จในกลวงรัชกาลที่ 9 ที่วัดพระแก้ว เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล ถือเป็นโชคดีของตนเองและครอบครัวมาก วันนี้ที่ได้มากราบพระบรมศพก็ถือว่าเป็นโชคดีของครอบครัวตนเองอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สนใจภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานจัดทำบัตรอวยพร ปี 2560 รวม 4 แบบ เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ สามารถซื้อชุดละ 4 ภาพ ในราคาชุดละ 90 บาท จำหน่ายที่ร้านโกลเด้น เพลซ, ร้านค้าสวัสดิการข้าราชบริพารในพระองค์ 904 และร้านจักรยานสุขสำราญ ถนนสุโขทัย รวมถึงร้านนายอินทร์ ส่วนต่างจังหวัดมีจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์ ในวันจันทร์ที่ 23 มกราคมนี้
